MESUB TRAVEL

บริการวีซ่าอเมริกา

สะดวก รวดเร็ว คุ้มค่า

     

     พูดถึงเรื่องการขอวีซ่าอเมริกา (US) หลาย ๆ คนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของประเภทวีซ่าที่ต้องดำเนินการขอ เอกสารที่ต้องเตรียม การลุ้นว่าวีซ่านี้จะผ่านไหม นั้นเพราะว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่มีประเภทวีซ่าย่อยค่อนข้างข้างหลากหลาย และจุดประสงค์การเดินทางไปอเมริกาของแต่ละคน มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวอย่างอุทยาน สถานที่ที่ถ้าพูดถึงอเมริกาทุกคนจะนึกถึง เช่น Grand Canyon, Disney World, เทพีเสรีภาพ, สะพาน Golden Gate หรือ โปรแกรมยอดฮิตช่วง Summer  อย่าง Work & Travel และมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง MIT, Harvard และ มหาวิทยาลัยระดับ IVY League อื่น ๆ อีกมากมากมาย รวมไปถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างที่เราคุ้นเคยกัน ทั้ง Apple, Goolgle, Amazon และ Facebook อีกทั้งยังมีหลากหลายสายงานในสหรัฐฯ จริง ๆ แล้วการดำเนินการขอวีซ่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจลองเริ่มต้นจากการดูจุดประสงค์ก่อนว่า อยากไปประเทศนี้เพื่อทำอะไร ขอวีซ่า และเตรียมเอกสารให้ครบตามที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งทาง Mesub มีบริการให้คำปรึกษา

  • คุณเดินทางมาจากประเทศไหน
  • ทำไมคุณถึงอยากที่จะมาอเมริกา
  • คุณจะมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานเท่าไหร่
  • สถานการณ์ หรือ ทักษะส่วนตัวของคุณ

       

 ถ้าอยากเดินทางเพื่อที่จะมาท่องเที่ยว หรือ business trip/seminar ระยะสั้นให้ยื่นสมัครวีซ่าท่องเที่ยว (B-2) แต่หากใครมีการประชุมธุรกิจ หรือ เดินทางมาในลักษณะของ Business trip ให้ยื่นสมัครวีซ่าธุรกิจ (B-1) หรือ ใครเป็นสายการลงทุนอยากเปิดธุรกิจที่ประเทศนี้ ให้ยื่นสมัครวีซ่านักลงทุน (E-2) และสำหรับโปรแกรม Work & Travel หรือ โครงการแลกเปลี่ยนจะต้องยื่นสมัครวีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1) ส่วนวีซ่านักเรียนที่จะมาเรียนที่อเมริกาในระยะยาว หรือ เรียนในระดับมหาวิทยาลัยจำเป็นที่ต้องยื่นสมัครวีซ่านักเรียน (F1 / M1) 

MESUB TRAVEL

บริการวีซ่าอเมริกา

สะดวก รวดเร็ว คุ้มค่า

บริการรับทำวีซ่าอเมริกา

ดูแลจนกว่าจะผ่าน

  • กรอกฟอร์ม DS-160 จองคิว ทำแพลนเดินทาง
  •  เตรียมสัมภาษณ์ แปลเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร
  •  บริการหน้างาน ปรึกษาฟรี! บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ

บริการวีซ่าอเมริกา

พูดถึงเรื่องการขอวีซ่าอเมริกา (US) หลาย ๆ คนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของประเภทวีซ่าที่ต้องดำเนินการขอ เอกสารที่ต้องเตรียม การลุ้นว่าวีซ่านี้จะผ่านไหม นั้นเพราะว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่มีประเภทวีซ่าย่อยค่อนข้างหลากหลาย และจุดประสงค์การเดินทางไปอเมริกาของแต่ละคน มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว สถานที่ที่ถ้าพูดถึงอเมริกาทุกคนจะนึกถึง เช่น Grand Canyon, Disney World, เทพีเสรีภาพ, สะพาน Golden Gate หรือ โปรแกรมยอดฮิตช่วง Summer  อย่าง Work & Travel และมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง MIT, Harvard และ มหาวิทยาลัยระดับ IVY League อื่น ๆ อีกมากมากมาย รวมไปถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างที่เราคุ้นเคยกัน ทั้ง Apple, Goolgle, Amazon และ Facebook อีกทั้งยังมีหลากหลายสายงานในสหรัฐฯ จริง ๆ แล้วการดำเนินการขอวีซ่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด อาจลองเริ่มต้นจากการดูจุดประสงค์ก่อนว่า อยากไปประเทศนี้เพื่อทำอะไร ขอวีซ่า และเตรียมเอกสารให้ครบตามที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งทาง Mesub มีบริการให้คำปรึกษา

  • คุณเดินทางมาจากประเทศไหน
  • ทำไมคุณถึงอยากที่จะมาอเมริกา
  • คุณจะมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานเท่าไหร่
  • สถานการณ์ หรือ ทักษะส่วนตัวของคุณ

ถ้าอยากเดินทางเพื่อที่จะมาท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจระยะสั้นให้ยื่นสมัครวีซ่าท่องเที่ยว (B) แต่หากใครต้องการมาทำงาน ให้ยื่นสมัครวีซ่าทำงาน (H, L, O, P, Q) หรือ ใครเป็นสายการลงทุนอยากเปิดธุรกิจที่ประเทศนี้ ให้ยื่นสมัครวีซ่าผู้ประกอบการค้าและนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E) และสำหรับโปรแกรม Work & Travel หรือ โครงการแลกเปลี่ยนจะต้องยื่นสมัครวีซ่าแลกเปลี่ยน (J) ส่วนวีซ่านักเรียนที่จะมาเรียนที่อเมริกาในระยะยาว หรือ เรียนในระดับมหาวิทยาลัยจำเป็นที่ต้องยื่นสมัครวีซ่านักเรียน (F, M) นอกจากนี้ ยังมีวีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ ( C, D) วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา (R) วีซ่าสำหรับผู้ช่วยทำงานบ้าน (แม่บ้าน/พี่เลี้ยง) B-1 และ วีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (I)

MESUB TRAVEL

รีวิวจากลูกค้า

“ยื่นวีซ่ามั่นใจ ลูกค้าบอกต่อ กลับมาใช้บริการซ้ำ”

บริการรับทำวีซ่าอเมริกาของ MESUB TRAVEL

  • รับทำวีซ่าอเมริกา
  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำวีซ่าอเมริกา วีซ่า US
  • วิเคราะห์โปรไฟล์ ประเมินและโอกาสที่จะได้รับวีซ่า
  • กรอกฟอร์ม DS-160 และตรวจสอบเอกสาร 
  • รับแปลเอกสารสำหรับวีซ่าอเมริกา วีซ่า US
  • นัดหมายยื่นวีซ่า เตรียมสัมภาษณ์ และติดตามผล

ทําวีซ่ากับเรา
MESUB TRAVEL

ดียังไง

ลดเวลา

  • ไม่ต้องรอคิว
  • ไม่ต้องเสียเวลาทําเอกสาร

ลดขั้นตอน

  • ไม่ต้องกรอกฟอร์มเอง
  • ไม่ต้องเขียนเอกสารเพิ่ม

เพิ่มโอกาสผ่าน

  • การันตี กว่า 10,000+ เคสสําเร็จ
  • ประสบการณ์เยอะ ผ่านมาทุกเคส

ขั้นตอน
การทำวีซ่ากับเรา

ทําวีซ่ากับเรา
MESUB TRAVEL

ดียังไง

ลดเวลา

  • ไม่ต้องรอคิว
  • ไม่ต้องเสียเวลาทําเอกสาร

ลดขั้นตอน

  • ไม่ต้องกรอกฟอร์มเอง
  • ไม่ต้องเขียนเอกสารเพิ่ม

เพิ่มโอกาสผ่าน

  • การันตี กว่า 10,000+ เคสสําเร็จ
  • ประสบการณ์เยอะ ผ่านมาทุกเคส

ขั้นตอนการทำ
วีซ่ากับเรา

วีซ่าอเมริกา

ขั้นตอนการทำวีซ่าอเมริกากับเรา

  1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ทาง LINE OFFICIAL หรือ ติดต่อ 09-5653-8299 / 098-185-6999
  2. เจ้าหน้าที่จะส่ง รายการเอกสาร สำหรับการยื่นวีซ่าให้ ดังนี้
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ทุกเล่มที่มี
  • รูปถ่ายสีตามที่สถานทูตกำหนด
  • สำเนาเอกสารส่วนตัว
    • สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบสูติบัตร (กรณีอายุไม่ถึง 20 ปี) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ สำเนาใบเปลี่ยนนามสกุล สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนหย่า ใบแสดงสิทธิ์การดูแลบุตรฯ
  • เอกสารการทำงาน
    • ทำงานประจำ ใบรับรองการทำงาน และ/หรือ ใบลา และ/หรือ สลิปเงินเดือน
    • เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
    • เกษียณอายุ สำเนาบัตรข้าราชการผู้รับบำเหน็จบำนาญ สำเนาเอกสารรับรองการทำงานที่สุดท้าย และ/หรือ ประวัติการทำงานย้อนหลัง
    • แม่บ้าน/พ่อบ้าน แจ้งที่มาของรายได้ เอกสารที่แสดงถึงภาระทรัพย์สินและหนี้สิน
  • เอกสารการศึกษา (กรณียังศึกษาอยู่)
  • ใบรับรองการศึกษา ระบุชื่อ-นามสกุลของสถาบัน และสถานะทางการศึกษา หลักสูตร ตารางเปิด-ปิดภาคเรียน รายงานผลการเรียน หรือ Transcript
  • เอกสารทางการเงิน
    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน โดยอายุเอกสารไม่เกิน 1 เดือน และ /หรือ เอกสารรับรองบัญชี ออกโดยธนาคาร โดยอายุเอกสารไม่เกิน 1 เดือน
  • เอกสารรับรองการสนับสนุนจากใช้จ่าย (กรณีมีผู้สนับสนุน)
    • หนังสือเดินทาง และสำเนาเอกสารส่วนตัวของผู้เชิญ เอกสารแสดงความสัมพันธ์ จดหมายรับรองการสนับสนุน เอกสารทางการงาน และเอกสารทางการเงินของผู้สนับสนุน และ/หรือ เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น
  • หนังสือยินยอมจากเขต (กรณีอายุไม่ถึง 20 ปี)
  • เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการยื่นวีซ่านั้น ๆ เช่น แพลนเที่ยว หลักฐานการจองตั๋วไป-กลับ หลักฐานที่พัก และอื่น ๆ
  1. เจ้าหน้าที่จะแจ้งวันนัดหมาย วันและเวลาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตอเมริกา
  2. รอรับผลการยื่นวีซ่า 7-15 วันทำการ เมื่อวีซ่าได้รับอนุมัติแล้วสามารถเดินทางตามเงื่อนไขของวีซ่าได้เลย

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าธุรกิจ/ท่องเที่ยว (B)

185

วีซ่าทํางาน (H, L, O, P, Q)

205

วีซ่านักเรียน (F, M)

185

วีซ่านักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน (J)

185 

วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ (C, D)

185 

วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา (R)

205

วีซ่าผู้ช่วยทำงานบ้าน (แม่บ้าน/พี่เลี้ยง) (B-1)

185 

วีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (I)

185 

วีซ่านักลงทุน (E)

305

ประเภทของวีซ่า

      หากแบ่งตามประเภทวีซ่าถือได้ว่ามีความหลากหลายมาก โดยขึ้นอยู่กับทั้งระยะเวลาที่จะไปอยู่ในอเมริกา จุดประสงค์ต่าง ๆ โดยจะมี 3 ประเภทหลักที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่

เอกสารที่ต้องเตรียม

มีอายุเหลืออย่างน้อยที่สุด 6 เดือน

วีซ่าท่องเที่ยว อเมริกา
  • ขนาด 2×2 นิ้ว หน้าตรง พื้นหลังสีขาว
    ห้ามใส่แว่นตาและควรเปิดหน้า
  • บัตรประชาชน 
  • ทะเบียนบ้าน 
  • ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล 
  • ทะเบียนสมรส ใบหย่า
  • หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา 
    ผลการเรียน
  • หนังสือรับรองการทำงาน (ออกไม่เกิน 1 เดือน) 
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน (ถ้ามี) 
  • ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจให้แสดงหนังสือรับรองบริษัทที่คัดมาจาก DBD ไม่เกิน 3 เดือน หรือทะเบียนการค้า
วีซ่านักเรียนอเมริกา

รายละเอียด และค่าใช้จ่ายวีซ่าประเภทต่าง ๆ

วีซ่าอเมริกา แต่ละประเภทนั้นจะใช้เอกสารหลักที่คล้ายกัน เช่น หนังสือเดินทาง สมุดเดินบัญชี (Bank Statement) ทะเบียนบ้าน จุดประสงค์ของการเดินทางเป็นต้น แต่เนื่องจากวีซ่ามีหลายประเภท และจุดประสงค์แตกต่างกันไป จึงมีการใช้เอกสารย่อย หรือ เอกสารเฉพาะที่แตกต่างกัน ในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายรายละเอียดของวีซ่าแต่ละประเภท และเอกสารเบื้องต้น

1. วีซ่าธุรกิจ (B-1) และ วีซ่าท่องเที่ยว (B-2)

วีซ่า B-1 และ B-2 สหรัฐอเมริกา (US) เป็นวีซ่าที่มีสิทธิ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันในบางส่วน นั้นก็คือ วีซ่าธุรกิจ (B1) เป็นวีซ่าที่จุดประสงค์คือทางด้านธุรกิจ เช่น เดินทางไปประชุมงาน / Business Trip / Seminar / Exhibition ในขณะที่วีซ่าท่องเที่ยว (B-2) จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางที่มาท่องเที่ยวที่อเมริกา อีกทั้งยังครอบคลุมในเรื่องของการรักษาทางการแพทย์ (Medical treatment) อีกด้วย ซึ่งวีซ่า B-1 และ B-2 มีอายุ 10 ปี แต่สามารถอยู่ในอเมริกาได้นานเพียง 6 เดือน

สิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว (B-1) วีซ่าท่องเที่ยว (B-2) สามารถทำได้

  • ท่องเที่ยว
  • แวะหาญาติ หรือ พบปะเพื่อน
  • ท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา
  • การรักษาทางการแพทย์
  • ทำธุรกิจระยะสั้น* (เฉพาะวีซ่า B-2)

เอกสารสำหรับขอวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าธุรกิจ (B-1) และวีซ่าท่องเที่ยว (B-2)

  • เอกสารสำคัญเกี่ยวกับการเดินทาง

    • หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน
    • หนังสือเดินทางเล่มเก่าทั้งหมด (ถ้ามี) เพื่อใช้ตรวจสอบประวัติการเดินทาง
    • ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์ (Appointment Confirmation)
    • เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน (ถ้ามี)
    • เอกสารการจองที่พัก เช่น โรงแรม หรือหลักฐานการเข้าพักอื่น ๆ (ถ้ามี)
  • รูปถ่ายและแบบฟอร์ม

    • แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า DS-160 ที่กรอกเรียบร้อย
    • รูปถ่ายสีหน้าตรง เปิดหู พื้นหลังสีขาว ขนาด 2×2 นิ้ว จำนวน 1 รูป (ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
  • เอกสารยืนยันตัวตน

    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (หากมีการเปลี่ยนแปลง)
    • สำเนาทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
  • หลักฐานด้านการเงินและงาน

    • จดหมายรับรองงาน หรือเอกสารที่ยืนยันที่มาของรายได้ (กรณีทำงานแล้ว)
    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนจากธนาคาร (Bank Statement)
    • หลักฐานการเงินเพิ่มเติม เช่น ใบรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคาร (ถ้ามี)
  • แผนการเดินทางและวัตถุประสงค์

    • แผนการเดินทางที่ชัดเจน พร้อมรายละเอียดจุดหมายปลายทางและกิจกรรม
    • จดหมายเชิญจากผู้เชิญในประเทศปลายทาง พร้อมแนบสำเนาพาสปอร์ตของผู้เชิญ (หากมีผู้เชิญ)

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าธุรกิจ (B1) และ วีซ่าท่องเที่ยว (B-2)

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าธุรกิจ (B-1) 

185

วีซ่าท่องเที่ยว (B-2)

185

2. วีซ่านักเรียน (F-1, M-1)

การขอวีซ่านักเรียนเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทนี้ต้องการความละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจากเอกสารและการสัมภาษณ์จะถูกนำมาพิจารณาเพื่อยืนยันวัตถุประสงค์และความพร้อมของผู้สมัครทั้งในด้านการศึกษา การเงิน และแผนการกลับประเทศหลังเสร็จสิ้นการศึกษา วีซ่านักเรียนอเมริกาแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้

วีซ่านักเรียน (F-1)

วีซ่านักเรียน (F-1) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาที่อเมริกาเพื่อการเรียนศึกษาต่อโดยเฉพาะซึ่งผู้ที่ไปเรียนนั้นจะได้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างจากวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งเหมาะกับผู้ที่จะเรียนในการเรียนภาษาระยะยาว รวมไปถึงระดับปริญญาฯ ไม่ว่าจะเป็น ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกที่อเมริกา โดยเงื่อนไขสำคัญคือผู้สมัครต้องมีเอกสาร I-20 ที่ออกโดยสถาบันเพื่อใช้ประกอบการขอวีซ่า อายุของวีซ่า F-1 มักอยู่ที่ 1 ปี แต่ผู้ถือวีซ่าสามารถขอต่ออายุได้ตามระยะเวลาการศึกษา

ผู้ถือวีซ่า F-1 ยังมีสิทธิ์อยู่ต่อในประเทศสหรัฐฯ ได้อีก 60 วัน หลังจากวันที่สิ้นสุดการเรียนตามที่ระบุใน I-20 หากมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลในขั้นตอนการสมัครสามารถปรึกษา Mesub Travel เพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม

 

วีซ่านักเรียน (M-1)

วีซ่านักเรียน (M-1) ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีความประสงค์ศึกษาต่อในด้านวิชาชีพหรือการฝึกอบรมเฉพาะทาง เช่น การเรียนสายอาชีพ หรือโปรแกรมฝึกอบรมที่ไม่ใช่ด้านวิชาการในประเทศสหรัฐฯ ผู้สมัครจะต้องได้รับการตอบรับจากสถาบันที่จัดหลักสูตรเฉพาะทางนั้น ๆ และมีเอกสาร I-20 ที่ออกโดยสถาบันเพื่อใช้ในการสมัคร

สำหรับวีซ่า M-1 ผู้ถือจะสามารถพำนักในประเทศสหรัฐฯ ได้เป็นระยะเวลาสูงสุด 1 ปี หรือจนถึง 30 วันหลังจากวันสิ้นสุดการศึกษาใน I-20

 

สิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่านักเรียนสามารถทำได้

  • มีสิทธิ์เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรอง (SEVIS-approved)
  • สามารถเข้าเรียนในระดับการศึกษาที่หลากหลาย ทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก
  • มีสิทธิ์ทำงานในบริบททางวิชาชีพ (Optional Practical Training, OPT) หลังจบการศึกษาเพื่อได้ประสบการณ์การทำงาน
  • มีสิทธิ์สมัครทำงานในสถานที่ศึกษา (on-campus employment) โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจาก USCIS
  • นักเรียน F-1 ที่จบการศึกษามีสิทธิ์ยื่นคำขอ OPT เพื่อทำงานในสาขาที่เรียนไป
  • นักเรียน F-1 ที่ต้องการทำงานในสถานที่ศึกษาในระหว่างการศึกษาสามารถทำการสมัคร CPT (Curricular Practical Training) ได้
  • มีสิทธิ์ท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ก่อนหรือหลังการเรียน (ทั้งนี้ก็ต่อเมืื่อวีซ่าได้รับอนุมัติแล้ว)
  • มีสิทธิ์อยู่ในสหรัฐตลอดระยะเวลาการศึกษา
  • มีสิทธิ์เข้า และออกของสหรัฐในระหว่างระยะเวลาการศึกษา
  • มีสิทธิ์ยื่นคำขอต่อวีซ่าเพื่อดำรงชีวิตในสหรัฐหลังจบการศึกษา (เช่น วีซ่า H-1B หรือ วีซ่าประเภทอื่น ๆ)

     

 เอกสารสำหรับขอวีซ่าอเมริกา วีซ่านักเรียน

  • เอกสารสำคัญเกี่ยวกับการสมัครวีซ่า

    • บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
    • ใบเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามี)
    • ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
    • ใบเกิด (กรณีผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์)
    • หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (กรณีผู้สมัครยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
  • เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน

    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (Bank Statement)
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Guarantee)
    • กรณีมีสปอนเซอร์: Bank Statement และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ (ควรเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ)
  • เอกสารแสดงสถานะการเรียน

    • วุฒิการศึกษา และใบเกรดการศึกษาชั้นสูงสุด
    • ใบรับรองการเป็นนักเรียน/นักศึกษา และใบเกรดล่าสุด

       

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่านักเรียน (F-1. M-1)

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่านักเรียน (F-1, M-1)

185

3. วีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1)

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวีซ่าได้ที่ได้รับความนิยม เพราะในประเทศไทยมีโครงการแลกเปลี่ยนมากมายทั้งแลกเปลี่ยนในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งอเมริกาก็เป็นประเทศในฝันของหลาย ๆ คนสำหรับการเดินทางไปแลกเปลี่ยน และแน่นอนว่ามีเอกสารที่ต้องเตรียมมากมายทั้งฝั่งนักเรียนเอง และผู้ปกครอง โดยวีซ่าประเภทนี้ก็เหมือนกับวีซ่าประเภทอื่น ๆ ในเรื่องของสิทธิ์ที่บางอย่างทำได้ และไม่สามารถทำได้ และวีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1) มีอายุ 2 ปี

สิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1) สามารถทำได้

  • สิทธิในด้านการศึกษา: เรียนตามหลักสูตรปกติ เข้าร่วมชมรม เข้าร่วมกิจกรรมโรงเรียน
  • สิทธิในด้านสุขภาพ: เข้าถึงระบบประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน (อาจแตกต่างกันไปตามโครงการแลกเปลี่ยน)
  • สิทธิในด้านการทำงาน: อนุญาตให้ทำงานบางประเภท เช่น งานในมหาวิทยาลัย ร้านค้าในมหาวิทยาลัย
  • สิทธิในด้านการพำนัก: อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ตามระยะเวลาที่วีซ่ากำหนด
  • สิทธิในด้านเสรีภาพ

สิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่า (J-1) ไม่สามารถทำได้

  • ห้ามทำงานนอกเหนือข้อกำหนด: ทำธุรกิจ รับจ้างอิสระ รับงานนอกมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ห้ามเดินทางออกนอกสหรัฐอเมริกาเกินกำหนดวีซ่า
  • ห้ามเปลี่ยนสถานะวีซ่าโดยไม่ได้รับอนุญาต: หากอยากอยู่ต่อต้องยื่นขอวีซ่าใหม่ชนิดอื่น
  • ห้ามละเมิดกฎหมาย: ขับรถดื่มเหล้า ยาเสพติด ก่ออาชญากรรม
  • ห้ามละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น: การเหยียดผิว ศาสนา ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว

เอกสารสำหรับขอวีซ่าอเมริกา วีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1)

  • เอกสารสำคัญเกี่ยวกับการสมัครวีซ่า

    • หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน นับจากระยะเวลาที่ตั้งใจจะพำนักในสหรัฐอเมริกา
    • ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160) ที่กรอกข้อมูลครบถ้วน
    • DS-2019 ที่มีการลงนามรับรองโดยผู้สนับสนุนโครงการในประเทศสหรัฐอเมริกา (ระบุวันเริ่มและสิ้นสุดโครงการ)
    • ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า
    • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว (พื้นหลังสีขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน หน้าตรง ไม่สวมแว่นตา)
    • ใบนัดสัมภาษณ์ (Appointment Confirmation)
    • ผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, TOEIC, SAT ฯลฯ  (ถ้ามี)
  • เอกสารยืนยันตัวตน

    • บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
    • ใบเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามี)
    • ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
    • ใบเกิด (กรณีผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์)
    • หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (กรณีผู้สมัครยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
  • เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน

    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (Bank Statement)
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Guarantee)
    • กรณีมีสปอนเซอร์: Bank Statement และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ (ควรเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ)
  • เอกสารแสดงสถานะการเรียน

    • วุฒิการศึกษา และใบเกรดการศึกษาชั้นสูงสุด
    • ใบรับรองการเป็นนักเรียน/นักศึกษา และใบเกรดล่าสุด

 ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1)

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1)

185

4. วีซ่านักลงทุน (E-1, E,2)

วีซ่านักลงทุนเป็นวีซ่าชั่วคราวที่ออกให้กับพลเมืองของประเทศที่สหรัฐอเมริกามีสนธิสัญญาการค้าขายและการเดินเรือ เช่น ประเทศไทย วีซ่านี้อนุญาตให้ผู้ถือเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อดำเนินธุรกิจการค้า (E-1) หรือการลงทุน (E-2) โดยมีระยะเวลาการพำนักตามที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกำหนด ผู้ถือวีซ่าต้องมีความตั้งใจที่จะออกจากสหรัฐฯ เมื่อสถานะของวีซ่าสิ้นสุด

ประเภทของวีซ่านักลงทุน

1. วีซ่าผู้ประกอบการค้า (E-1)

วีซ่านี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้าขายระหว่างประเทศสหรัฐฯ และประเทศคู่สนธิสัญญา โดยธุรกิจที่ดำเนินการต้องเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ หรือเทคโนโลยี

คุณสมบัติผู้สมัคร E-1

  • ต้องเป็นพลเมืองของประเทศคู่สนธิสัญญา เช่น ประเทศไทย
  • บริษัทคู่ค้าของสหรัฐฯ ต้องมีเจ้าของที่ถือหุ้นอย่างน้อย 50% ซึ่งเป็นพลเมืองของประเทศคู่สนธิสัญญา
  • การค้าขายต้องมีมูลค่ามากและต่อเนื่อง
    • การค้าขายระหว่างประเทศสหรัฐฯ และประเทศคู่สนธิสัญญาต้องมากกว่า 50% ของธุรกิจทั้งหมด
  • ผู้สมัครต้องดำรงตำแหน่งผู้บริหาร หัวหน้า หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จำเป็นต่อธุรกิจ
  • ต้องมีความตั้งใจที่จะเดินทางออกจากสหรัฐฯ เมื่อสถานะวีซ่าสิ้นสุดลง

2. วีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2)

สำหรับวีซ่านักลงทุน (E-2) จะมีขั้นตอนที่เฉพาะ และใช้เอกสารที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการเตรียมการเป็นพิเศษ 

  • ต้องมีธุรกิจที่สามารถปฏิบัติงานในสหรัฐอเมริกา
  • นักลงทุนต้องลงทุนเงินในธุรกิจที่มีมูลค่าสมเหตุสมผล
  • การลงทุนต้องเป็นเงินที่มีตัวเลขมีนัยสำคัญและสามารถสร้างงานที่เป็นประโยชน์
  • นักลงทุนต้องเป็นพลเมืองของประเทศที่มีสัญชาติที่มีข้อตกลง E-2 Treaty กับสหรัฐอเมริกา
  • หากเป็นในกรณีที่จัดตั้งบริษัท
    • สมัคร EIN (Employer Identification Number) จาก Internal Revenue Service (IRS)
  • มีเอกสารรับรองเพื่อให้มั่นใจว่าทุนในการลงทุนทางธุรกิจเพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อการยื่นสมัคร E-2 Visa

เอกสารสำหรับขอวีซ่าอเมริกา วีซ่านักลงทุน 

  • เอกสารพื้นฐานสำหรับยื่นวีซ่า

    • แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า DS-160 (กรอกข้อมูลครบถ้วนและส่งออนไลน์)
    • ใบนัดหมายการสัมภาษณ์ (Appointment Confirmation)
    • หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทาง
    • รูปถ่ายสีพื้นหลังขาว ขนาด 2×2 นิ้ว (หน้าตรง เปิดหู ไม่สวมแว่นตา) ที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
    • ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • เอกสารส่วนตัว

    • สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชน
    • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล)
    • สำเนาทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
  • เอกสารเกี่ยวกับการลงทุน

    • แผนธุรกิจ (Business Plan) ฉบับละเอียดที่แสดงความสามารถในการทำกำไร
    • หลักฐานการลงทุน เช่น
      • สัญญาการซื้อขายทรัพย์สิน (เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือกิจการ)
      • ใบเสร็จการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
      • รายการเดินบัญชีที่แสดงถึงเงินที่ใช้ในการลงทุน
    • เอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจ เช่น ใบจดทะเบียนบริษัท, ทะเบียนพาณิชย์, สัญญาหุ้นส่วน ฯลฯ
    • หลักฐานการจ้างงานพนักงานในสหรัฐอเมริกา (ถ้ามี)

เอกสารทางการเงิน

    • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (Bank Statement)
    • หลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุน เช่น
    • หนังสือรับรองการขายสินทรัพย์
    • เอกสารการรับมรดก
    • ใบแสดงรายได้จากการทำงาน

เอกสารเพิ่มเติม 

    • ใบจองตั๋วเครื่องบิน หรือกำหนดการเดินทาง 
    • หลักฐานการจองที่พัก เช่น ใบจองโรงแรม หรือเอกสารแสดงที่พักในสหรัฐอเมริกา
    • จดหมายแนะนำตัวและวัตถุประสงค์การขอวีซ่า

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่านักลงทุน (E-2)

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่านักลงทุน (E-1, E,2)

315

5. วีซ่าทํางาน (H, L, O, P, Q)

หากใครมีความประสงค์ที่จะทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว ต้องขอวีซ่าทำงานตามกฎหมายของประเทศสหรัฐฯ โดยประเภทของวีซ่าจะขึ้นอยู่กับลักษณะงานและระยะเวลาที่จะปฏิบัติงาน การยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทนี้มักเริ่มจากนายจ้างในสหรัฐฯ ซึ่งต้องยื่นคำร้องแบบฟอร์ม I-129 เพื่อขออนุมัติจากสำนักงานบริการสัญชาติและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (USCIS) หลังจากคำร้องได้รับอนุมัติแล้ว จึงจะสามารถดำเนินการขอวีซ่าผ่านสถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ ได้

ประเภทของวีซ่าทำงาน

  • H-1B: สำหรับผู้มีทักษะพิเศษ เช่น วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ หรือนักวิจัย ต้องมีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาที่เกี่ยวข้อง
  • H-2A: สำหรับแรงงานด้านการเกษตรที่ขาดแคลนในสหรัฐฯ
  • H-2B: สำหรับแรงงานชั่วคราวในตำแหน่งที่ขาดแคลน เช่น งานโรงแรม งานก่อสร้าง
  • H-3: สำหรับการฝึกงานที่ไม่สามารถหาโครงการลักษณะเดียวกันในประเทศต้นทางได้
  • H-4: สำหรับผู้ติดตาม (คู่สมรสหรือบุตร) ของผู้ถือวีซ่า H
  • L-1: สำหรับพนักงานที่ถูกย้ายไปทำงานในสาขาหรือบริษัทในเครือในสหรัฐฯ
  • O: สำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ การศึกษา ธุรกิจ หรือกีฬา
  • P: สำหรับนักกีฬาหรือศิลปินที่เดินทางมาทำงานชั่วคราว
  • Q: สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

เอกสารสำหรับขอวีซ่าทำงานอเมริกา

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์ม DS-160 (Confirmation Page)
  • ใบคำร้อง I-129 ที่ผ่านการอนุมัติ (Notice of Action, Form I-797)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ตามมาตรฐานของสถานทูต
  • หนังสือรับรองการทำงานหรือสัญญาจ้างจากนายจ้าง
  • หลักฐานการศึกษา เช่น ปริญญาบัตร ใบรับรองผลการเรียน
  • ใบรับรองการผ่านการฝึกอบรมหรือเอกสารแสดงทักษะเฉพาะทาง (หากเกี่ยวข้อง)
  • หลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • หลักฐานทางการเงิน เช่น ใบรับรองเงินฝากหรือสลิปเงินเดือน
  • หลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ครอบครัว (สำหรับผู้ติดตาม)

 

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าทำงาน

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าทำงาน (H, L, O, P, Q)

205

 

6. วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ (C, D)

วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ (Transit and Crew Visa) เป็นวีซ่าที่ออกให้แก่บุคคลต่างชาติที่เดินทางผ่านสหรัฐอเมริกาไปยังจุดหมายปลายทางอื่น หรือสำหรับลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่บนเรือเดินสมุทรหรือสายการบินที่ผ่านหรือประจำในสหรัฐฯ โดยผู้เดินทางประเภทนี้จำเป็นต้องแสดงหลักฐานที่ยืนยันว่าไม่มีจุดประสงค์จะพำนักระยะยาวหรือประกอบอาชีพในประเทศสหรัฐฯ 

ประเภทของวีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ

  • วีซ่าผ่านแดน (ประเภท C):
    ออกให้แก่ผู้เดินทางที่จำเป็นต้องผ่านดินแดนสหรัฐฯ เพื่อต่อเครื่องบินหรือเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศอื่น โดยไม่มีแผนที่จะพำนักหรือแวะพักเพื่อวัตถุประสงค์อื่นในสหรัฐฯ
  • วีซ่าลูกเรือ (ประเภท D):
    ออกให้แก่ลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่บนเรือเดินสมุทรหรือสายการบินในเส้นทางที่ผ่านหรือประจำในน่านน้ำหรือสนามบินของสหรัฐฯ
  • วีซ่ารวม (C1/D):
    เป็นการรวมวีซ่าผ่านแดนและวีซ่าลูกเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ลูกเรือและต้องผ่านดินแดนสหรัฐฯ ไปพร้อมกัน

 

เอกสารสำหรับขอวีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์ม DS-160 (Confirmation Page)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ตามมาตรฐานของสถานทูต
  • ใบรับรองการทำงาน (ถ้ามี): สำหรับลูกเรือควรแสดงจดหมายรับรองการจ้างงานและเอกสารคนประจำเรือ
  • ใบนัดสัมภาษณ์: ยืนยันวันและเวลานัดสัมภาษณ์ที่สถานทูตหรือสถานกงสุล
  • หลักฐานทางการเงิน: เอกสารแสดงว่ามีความสามารถในการครอบคลุมค่าใช้จ่ายระหว่างพำนักในสหรัฐฯ

 

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าผ่านแดน/ลูกเรือ (C, D)

185



7. วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา (R)

วีซ่าประเภท R ถูกออกแบบมาสำหรับบุคคลที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเพื่อปฏิบัติศาสนกิจเป็นการชั่วคราว โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (INA) §101(a)(15)(R) ซึ่งครอบคลุมถึงผู้เผยแผ่ศาสนาและบุคคลที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับศาสนา การยื่นขอวีซ่านี้จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

  • ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ (Minister of Religion): ผู้ได้รับอนุญาตจากองค์กรทางศาสนาให้ประกอบพิธีกรรมและปฏิบัติศาสนกิจในบทบาทของคณะสงฆ์หรือศาสนาจารย์
  • ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับศาสนา (Religious Worker): บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในองค์กรทางศาสนา เช่น การสอนศาสนา การดูแลชุมชนศาสนา หรือการจัดการพิธีกรรมต่าง ๆ
  • ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับศาสนา (Religious Occupation): บุคคลที่ทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยตรง เช่น การสอนหรือการวิจัยศาสนา

เอกสารสำหรับขอวีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์ม DS-160 (Confirmation Page)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ตามมาตรฐานของสถานทูต
  • ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียม I-129: สำหรับตรวจสอบสถานะการอนุมัติคำร้อง
  • เอกสารสนับสนุนเพิ่มเติม: เช่น ใบอนุญาตประกอบศาสนกิจ เอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกของนิกายศาสนา หรือหนังสือรับรองจากองค์กรทางศาสนา
  • ใบนัดสัมภาษณ์: ใช้ยืนยันการนัดหมายกับสถานทูตหรือสถานกงสุล

 

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทผู้เผยแผ่ศาสนา

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา (R)

205



8. วีซ่าผู้ช่วยทำงานบ้าน (แม่บ้าน/พี่เลี้ยง) (B-1)

วีซ่าผู้ช่วยทำงานบ้านประเภท B-1 เป็นวีซ่าชั่วคราวที่มอบให้แก่ผู้ที่ได้รับการว่าจ้างจากพลเมืองสหรัฐอเมริกาหรือผู้อยู่อาศัยที่มีสถานะทางกฎหมายในสหรัฐฯ เพื่อทำงานในบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการช่วยงานในบ้าน เช่น แม่บ้านหรือพี่เลี้ยงเด็ก โดยวีซ่าประเภทนี้มักจะออกให้แก่ผู้ที่ต้องการทำงานในบ้านของนายจ้างที่มีสถานะในสหรัฐฯ และไม่อนุญาตให้พำนักหรือทำงานในภาคธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากงานในบ้านที่ได้รับอนุญาต

เอกสารสำหรับขอวีซ่าผู้ช่วยทำงานบ้าน

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์ม DS-160 (Confirmation Page)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ตามมาตรฐานของสถานทูต
  • หนังสือรับรองที่ระบุเงื่อนไขการจ้างงาน, ลักษณะงาน, เงินเดือนที่ได้รับ, และระยะเวลาการจ้างงาน
  • หลักฐานทางการเงินของนายจ้าง เอกสารที่แสดงว่าผู้ว่าจ้างมีความสามารถทางการเงินในการจ่ายค่าจ้างและดูแลผู้ช่วยทำงานบ้าน เช่น สลิปเงินเดือน, บัญชีธนาคาร, หรือเอกสารภาษี
  • ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของนายจ้างในสหรัฐฯ และรายละเอียดการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน
  • หลักฐานการทำงานในประเทศต้นทาง
    • เอกสารที่ยืนยันว่าเจ้าของงานในประเทศต้นทางมีการทำงานที่มีความสัมพันธ์กับงานที่ผู้ขอวีซ่าจะทำในสหรัฐฯ

 

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทผู้ช่วยทำงานบ้าน

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าผู้ช่วยทำงานบ้าน (แม่บ้าน/พี่เลี้ยง) (B-1)

185



9. วีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (I)

วีซ่าสื่อมวลชนประเภท (I) เป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับตัวแทนสื่อมวลชนต่างประเทศที่ต้องการเดินทางมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารและการรายงานข่าวสารจากต่างประเทศ เช่น นักข่าว กองถ่าย ภาพยนตร์ หรือผู้สื่อข่าวด้านสื่อวิทยุและสื่อสิ่งพิมพ์ การขอวีซ่านี้จะพิจารณาตามหลัก “ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ” ที่ให้สิทธิ์แก่ตัวแทนสื่อมวลชนจากประเทศต่าง ๆ ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ตัวแทนสื่อที่ได้รับวีซ่าจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดที่กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกากำหนด โดยกิจกรรมที่ทำในสหรัฐฯ จะต้องเกี่ยวข้องกับการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาธารณะ เพื่อใช้ในการรายงานข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการเมือง สังคม วัฒนธรรม หรือกีฬา ตัวอย่างเช่น ผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปถ่ายทำข่าวสารหรือสารคดีสำหรับองค์กรสื่อที่มีสำนักงานในต่างประเทศ การดำเนินกิจกรรมสื่อสารเหล่านี้จึงสามารถได้รับวีซ่าสื่อมวลชน (I) เพื่อเข้าทำงานในสหรัฐฯ ได้

เอกสารสำหรับขอวีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน 

  • หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์ม DS-160 (Confirmation Page)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว ตามมาตรฐานของสถานทูต
  • ใบรับรองการทำงานที่ยืนยันการเป็นผู้สื่อข่าวของผู้ขอวีซ่า และการเดินทางเพื่อทำข่าว
  • หลักฐานทางการเงิน เช่น บัญชีธนาคาร หรือเอกสารที่ยืนยันว่าผู้ขอวีซ่ามีความสามารถในการจ่ายค่าครองชีพในระหว่างการเดินทาง
  • จดหมายเชิญจากองค์กรหรือหน่วยงานในประเทศที่จะไป: หากมีการเชิญจากองค์กรในประเทศนั้น ๆ ที่ต้องการให้ผู้ขอวีซ่ามาทำข่าวหรือรายงานการประชุม/กิจกรรม

ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน 

ประเภทวีซ่า

ค่าธรรมเนียม (USD)

วีซ่าผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (I)

185



MESUB TRAVEL

รีวิวอื่นๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เที่ยว นอร์เวย์

เที่ยว นอร์เวย์ : แจกทริป ขี่กวางลากเลื่อน ชมแสงเหนือในนอร์เวย์ สุดโรแมนติก

เที่ยว นอร์เวย์ มาจูงมือคนรู้ใจ ไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษอันตราตรึง กับทริปล่าแสงเหนือที่ นอร์เวย์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก เก็บความทรงจำสุดประทับใจไว้ด้วยกัน ท่องไปในดินแดนแห่งแสงเหนือและกวางเรนเดียร์ ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันงดงาม ดินแดนแห่งฟยอร์ด ป่าสน ภูเขา แสงเหนือ และธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ดินแดนที่งดงามราวกับเทพนิยาย ที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษ โรแมนติก ตราตรึงใจ ยากจะลืมเลือนสำหรับผู้มาเยือน ขี่กวางลากเลื่อนสุดโรแมนติก ในค่ำคืนพิเศษ ชมแสงเหนือกับคนรู้ใจ เดินทางสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย! ท่ามกลางบรรยากาศขาวโพลน

แสงเหนือ ประเทศ

5 ประเทศตามล่าแสงเหนือ ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต

แสงเหนือ ประเทศ ท่ามกลางความมืดมิดอันกว้างใหญ่ของท้องฟ้าในยามราตรี แสงเหนือปรากฏขึ้นราวกับม่านพรมสีเขียวมรกตที่พลิ้วไหวไปมาเหนือท้องฟ้า การได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ที่จะสร้างความทรงจำที่ลืมไม่ลง ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ Aurora Borealis เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันงดงามและน่าทึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกเหนือ แสงสีต่างๆ ที่ปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ เป็นสิ่งที่นักเดินทางทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้เห็นสักครั้งในชีวิต ปรากฏการณ์แสงเหนือ ม่านแสงสีแห่งท้องฟ้ายามราตรี แสงเหนือ หรือ Aurora Borealis ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่งดงาม เกิดขึ้นเมื่ออนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์ พุ่งเข้าชนชั้นบรรยากาศโลก

เที่ยว ประเทศเชงเก้น

เที่ยว ประเทศเชงเก้น : รวม 5 เมืองสุดฮิตเชงเก้น ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด

เที่ยว ประเทศเชงเก้น พื้นที่เชงเก้นเป็นเขตเดินทางเสรีที่ครอบคลุม 26 ประเทศในยุโรป ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศสมาชิกได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจหนังสือเดินทางที่พรมแดน ด้วยการมี Schengen Visa เพียงใบเดียว นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเมืองที่น่าทึ่งที่สุดในยุโรปได้อย่างง่ายดาย แต่ก่อนที่จะไปดูข้อมูล 5 เมืองสุดฮิตในเชงเก้น เรามาทำความรู้จักเชงเก้นกันให้มากขึ้นกันก่อนนะคะ เชงเก้น ประตูสู่ยุโรป ไร้พรมแดน กำเนิดแห่งเสรีภาพ ย้อนไปเมื่อปีค.ศ. 1985 บนเรือริมแม่น้ำโมเซล ใจกลางหมู่บ้านSchengen ประเทศลักเซมเบิร์ก ตัวแทนจาก

MESUB TRAVEL

รีวิวจากลูกค้า

ประเภทของวีซ่า

      หากแบ่งตามประเภทวีซ่าถือได้ว่ามีความหลากหลายมาก โดยขึ้นอยู่กับทั้งระยะเวลาที่จะไปอยู่ในอเมริกา จุดประสงค์ต่าง ๆ โดยจะมี 3 ประเภทหลักที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่

เอกสารที่ต้องเตรียม

มีอายุเหลืออย่างน้อยที่สุด 6 เดือน

  • ขนาด 2×2 นิ้ว หน้าตรง พื้นหลังสีขาว
    ห้ามใส่แว่นตาและควรเปิดหน้า
  • บัตรประชาชน 
  • ทะเบียนบ้าน 
  • ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล 
  • ทะเบียนสมรส ใบหย่า
  • หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา 
    ผลการเรียน
  • หนังสือรับรองการทำงาน (ออกไม่เกิน 1 เดือน) 
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน (ถ้ามี) 
  • ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจให้แสดงหนังสือรับรองบริษัทที่คัดมาจาก DBD ไม่เกิน 3 เดือน หรือทะเบียนการค้า
วีซ่านักเรียนอเมริกา

รายละเอียด และค่าใช้จ่ายวีซ่าประเภทต่าง ๆ

วีซ่าอเมริกา แต่ละประเภทนั้นจะใช้เอกสารหลักที่คล้ายกัน เช่น หนังสือเดินทาง สมุดเดินบัญชี (Bank Statement) ทะเบียนบ้าน จุดประสงค์ของการเดินทางเป็นต้น แต่เนื่องจากวีซ่ามีหลายประเภท และจุดประสงค์แตกต่างกันไป จึงมีการใช้เอกสารย่อย หรือ เอกสารเฉพาะที่แตกต่างกัน ในส่วนนี้จะเป็นการอธิบายรายละเอียดของวีซ่าแต่ละประเภท และเอกสารเบื้องต้น

1. วีซ่าธุรกิจ (B1) และ วีซ่าท่องเที่ยว (B-2)

วีซ่า B-1 และ B-2 สหรัฐอเมริกา (US) เป็นวีซ่าที่มีสิทธิ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันในบางส่วน นั้นก็คือ วีซ่าธุรกิจ (B1) เป็นวีซ่าที่จุดประสงค์คือทางด้านธุรกิจ เช่น เดินทางไปประชุมงาน / Business Trip / Seminar / Exhibition ในขณะที่วีซ่าท่องเที่ยว (B-2) จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางที่มาท่องเที่ยวที่อเมริกา อีกทั้งยังครอบคลุมในเรื่องของการรักษาทางการแพทย์ (Medical treatment) อีกด้วย

โดยสิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว (B-1) วีซ่าท่องเที่ยว (B-2) สามารถทำได้

 

  • ท่องเที่ยว
  • แวะหาญาติ หรือ พบปะเพื่อน
  • ท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา
  • การรักษาทางการแพทย์
  • ทำธุรกิจระยะสั้น* (เฉพาะวีซ่า B-2)

2. วีซ่านักเรียน (F-1)

เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาที่อเมริกาเพื่อการเรียนศึกษาต่อโดยเฉพาะซึ่งผู้ที่ไปเรียนนั้นจะได้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างจากวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งเหมาะกับผู้ที่จะเรียนในการเรียนภาษาระยะยาว รวมไปถึงระดับปริญญาฯ ไม่ว่าจะเป็น ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอกที่อเมริกา

และวีซ่านักเรียนเป็นวีซ่าที่ถือได้ว่าใช้เอกสารเฉพาะค่อนข้างเยอะ และหลากหลาย ดังนั้นเพื่อความมั่นใจในยื่นสมัครวีซ่านักเรียน (F1) สามารถแอดไลน์มาปรึกษา และขอคำแนะนำกับทาง Mesub Travel ได้เช่นเดียวกัน

โดยสิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่านักเรียน (F-1) สามารถทำได้

 

  • มีสิทธิ์เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรอง (SEVIS-approved)
  • สามารถเข้าเรียนในระดับการศึกษาที่หลากหลาย ทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก
  • มีสิทธิ์ทำงานในบริบททางวิชาชีพ (Optional Practical Training, OPT) หลังจบการศึกษาเพื่อได้ประสบการณ์การทำงาน
  • มีสิทธิ์สมัครทำงานในสถานที่ศึกษา (on-campus employment) โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจาก USCIS
  • นักเรียน F-1 ที่จบการศึกษามีสิทธิ์ยื่นคำขอ OPT เพื่อทำงานในสาขาที่เรียนไป
  • นักเรียน F-1 ที่ต้องการทำงานในสถานที่ศึกษาในระหว่างการศึกษาสามารถทำการสมัคร CPT (Curricular Practical Training) ได้
  • มีสิทธิ์ท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ก่อนหรือหลังการเรียน (ทั้งนี้ก็ต่อเมืื่อวีซ่าได้รับอนุมัติแล้ว)
  • มีสิทธิ์อยู่ในสหรัฐตลอดระยะเวลาการศึกษา
  • มีสิทธิ์เข้า และออกของสหรัฐในระหว่างระยะเวลาการศึกษา
  • มีสิทธิ์ยื่นคำขอต่อวีซ่าเพื่อดำรงชีวิตในสหรัฐหลังจบการศึกษา (เช่น วีซ่า H-1B หรือ วีซ่าประเภทอื่น ๆ)

3. วีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1)

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวีซ่าได้ที่ได้รับความนิยม เพราะในประเทศไทยมีโครงการแลกเปลี่ยนมากมายทั้งแลกเปลี่ยนในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งอเมริกาก็เป็นประเทศในฝันของหลาย ๆ คนสำหรับการเดินทางไปแลกเปลี่ยน และแน่นอนว่ามีเอกสารที่ต้องเตรียมมากมายทั้งฝั่งนักเรียนเอง และผู้ปกครอง โดยวีซ่าประเภทนี้ก็เหมือนกับวีซ่าประเภทอื่น ๆ ในเรื่องของสิทธิ์ที่บางอย่างทำได้ และไม่สามารถทำได้

โดยสิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่าแลกเปลี่ยน (J-1) สามารถทำได้

  • สิทธิในด้านการศึกษา: เรียนตามหลักสูตรปกติ เข้าร่วมชมรม เข้าร่วมกิจกรรมโรงเรียน
  • สิทธิในด้านสุขภาพ: เข้าถึงระบบประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน (อาจแตกต่างกันไปตามโครงการแลกเปลี่ยน)
  • สิทธิในด้านการทำงาน: อนุญาตให้ทำงานบางประเภท เช่น งานในมหาวิทยาลัย ร้านค้าในมหาวิทยาลัย
  • สิทธิในด้านการพำนัก: อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ตามระยะเวลาที่วีซ่ากำหนด
  • สิทธิในด้านเสรีภาพ

และสิ่งที่ผู้ได้รับอนุมัติวีซ่า (J-1) ไม่สามารถทำได้

 

  • ห้ามทำงานนอกเหนือข้อกำหนด: ทำธุรกิจ รับจ้างอิสระ รับงานนอกมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ห้ามเดินทางออกนอกสหรัฐอเมริกาเกินกำหนดวีซ่า
  • ห้ามเปลี่ยนสถานะวีซ่าโดยไม่ได้รับอนุญาต: หากอยากอยู่ต่อต้องยื่นขอวีซ่าใหม่ชนิดอื่น
  • ห้ามละเมิดกฎหมาย: ขับรถดื่มเหล้า ยาเสพติด ก่ออาชญากรรม
  • ห้ามละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น: การเหยียดผิว ศาสนา ล้วงล้ำความเป็นส่วนตัว

4. วีซ่านักลงทุน (E-2)

วีซ่า E-2, หรือที่เรียกว่า “Investor Visa” เป็นวีซ่าที่ช่วยให้นักลงทุนจากต่างประเทศมีสิทธิ์ในการเข้ามาลงทุน และดำเนินกิจธุรกิจในสหรัฐอเมริกาซึ่งประเทศไทยสามารถสมัครวีซ่านี้ได้ ซึ่งเป็นวีซ่าที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา

สำหรับวีซ่านักลงทุน (E-2) จะมีขั้นตอนที่เฉพาะ และใช้เอกสารที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการเตรียมการเป็นพิเศษ

 

  • ต้องมีธุรกิจที่สามารถปฏิบัติงานในสหรัฐอเมริกา
  • นักลงทุนต้องลงทุนเงินในธุรกิจที่มีมูลค่าสมเหตุสมผล
  • การลงทุนต้องเป็นเงินที่มีตัวเลขมีนัยสำคัญและสามารถสร้างงานที่เป็นประโยชน์
  • นักลงทุนต้องเป็นพลเมืองของประเทศที่มีสัญชาติที่มีข้อตกลง E-2 Treaty กับสหรัฐอเมริกา
  • หากเป็นในกรณีที่จัดตั้งบริษัท
    •  สมัคร EIN (Employer Identification Number) จาก Internal Revenue Service (IRS)
  • มีเอกสารรับรองเพื่อให้้มั่นใจว่าทุนในการลงทุนทางธุรกิจเพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อการยื่นสมัคร E-2 Visa

และนี้เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับ วีซ่า ต่าง ๆ การเตรียมเอกสารอาจมีความซับซ้อน และ Process ต่าง ๆ  หากคุณกำลังมองหาคนช่วยตรวจเอกสาร  เตรียมการต่าง ๆ สามารถปรึกษาเราได้ที่นี้

MESUB TRAVEL

รีวิวอื่นๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง