เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรปด้วยรถไฟ 5 ประเทศ เส้นทางในฝันของหลายคน

 

เที่ยวยุโรป วันนี้เราจะพาคุณบินลัดฟ้ามาเที่ยวยุโรปกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางในฝันของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย และถ้านานๆทีจะบินมาเที่ยวก็คงไม่หนำใจ เพราะการทำวีซ่าเช้งเก้นที่แสนยากเย็นนั้นก็ได้เปิดโอกาสให้คุณสามารถเข้ามาเที่ยวยุโรปได้มากถึง 28 ประเทศกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราจะมาดูกันดีกว่าถ้าจะมาเที่ยวยุโรปแล้วนั่งรถไฟเที่ยวข้ามประเทศนั้นจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง มาทำความรู้จักกับตั๋วรถไฟในยุโรปกันก่อน

 

เที่ยวยุโรป

ตั๋วโดยสารรถไฟในประเทศแถบยุโรปจะมีด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้

1 . Eurail ONE Country Pass (เดินทางได้ภายในประเทศ)

ตั๋วรถไฟนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางภายในประเทศนั้นเป็นเวลานานและต้องการเดินทางไปหลากหลายสถานที่ โดยคุณสามารถซื้อตั๋วรถไฟนี้แล้วนั่งรถไฟไปไหนก็ได้ภายในประเทศนั้นๆได้เลย โดยระบบการใช้ก็จะเหมือนกัน JR Pass ในประเทศญี่ปุ่น และ Swiss Pass ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง

2 . Eurail Select Pass (เดินทางข้ามประเทศได้ 2-4 ประเทศ)

มาต่อกันที่แบบที่ 2 จะเป็น ตั๋วรถไฟที่คุณสามารถเดินทางข้ามไปประเทศอื่นๆในทวีปยุโรปที่อยู่ติดกันได้ โดยสามารถเดินทางได้ตั้งแต่ 2-4 ประเทศเลยทีเดียว โดยจะมีเส้นทางการเดินทางที่มากมายในคุณเลือก ซึ่งประเทศที่อยู่ในกลุ่ม Eurail Select Pass นี้ก็จะมี ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเบเนลักซ์

3 . Eurail Global Pass

ส่วนใครที่วางแผนว่าอยากจะเดินทางท่องเที่ยวยุโรปมากกว่า 5 ประเทศขึ้นไปก็ต้องจับจองตั๋วรถไฟประเภทนี้กันได้เลย โดยคุณสามารถเดินทางข้ามประเทศในยุโรปได้มากถึง 28 ประเทศ คือ กรีก, ตุรกี, นอร์เวย์, บอสเนียเฮอร์เซโก, บัลแกเรีย, ประเทศลิธัวเนีย, ประเทศสวิสเซอร์แลนด์, ประเทศเยอรมนี, ฝรั่งเศส, ฟินแลนด์, มอนเตเนโก, มาซิโดเนีย, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, สวีเดน, สหราชอาณาจักร, สาธารณรัฐเช็ก, สเปน, สโลวะเกีย, สโลวีเนีย, ออสเตรีย, อิตาลี, ฮังการี, เซอร์เบีย, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, เอสโตเนีย, โครเอเชีย, โคโซโว, โปรตุเกส, โปแลนด์, โมนาโก, โรมาเนีย, ไอร์แลนด์ โดยตั๋วจะมีการกำหนดเที่ยวเดินทาง และกำหนดอายุของตั๋วรถไฟด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้คุณจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบครอบว่าจะเที่ยวนานกี่วันและจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนบ้าง โดยราคาก็จะเริ่มตั้งแต่ 168ยูโร ไปจนถึง 677 ยูโรเลยทีเดียว

 

เที่ยวยุโรป

 

เพราะฉะนั้นการเดินทางโดยรถไฟเที่ยวยุโรปแบบ 5 ประเทศนั้นการซื้อตั๋วแบบ Eurail Global Pass จะเหมาะที่สุด เพราะว่าไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของประเทศ แต่ใครจะซื้อตั๋วแบบ Eurail Select Pass ไปเที่ยว 4 ประเทศแล้วซื้อตั๋วรถไฟแยกข้ามไปเที่ยวที่ประเทศที่ 5 ก็ได้เช่นเดียวกัน

 

เที่ยวยุโรป

 

ทวีปยุโรป ถือเป็นทวีปที่รวบรวมประเทศท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคนเอาไว้ เพราะไม่เพียงแต่ลักษณะภูมิประเทศที่ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และความสวยงามที่ไม่เหมือนที่ไหน ๆ รวมถึงมีประเทศที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส สวีเดน สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ เป็นต้น หนึ่งในทริปการเดินทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังทวีปยุโรปคือ การนั่งรถไฟท่องเที่ยวแบบข้ามประเทศ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวอีกหนึ่งรูปแบบ ที่จะพาไปพบกับความสวยงามของทวีปยุโรป ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง

สำหรับคนที่อยากวางแพลนเดินทางเที่ยวยุโรป สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำวีซ่าเชงเก้น เป็นใบอนุญาตเข้าประเทศในการเดินทางแบบระยะสั้นหรือชั่วคราว เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในเวลา 180 วัน วีซ่าเชงเก้นหนึ่งประเทศ ให้สิทธิ์ในการเดินทางเข้าทุกประเทศในเขตเชงเก้น ซึ่งปัจจุบันประเทศที่อยู่ในข้อตกลงเชงเก้นนั้นมี 26 ประเทศ โดยการขอวีซ่าเชงเก้นต้องทำการขอวีซ่าจากประเทศที่เป็นจุดหมายหลัก หรือประเทศแรกที่เดินทางเข้าไป

 

เปิดประสบการณ์เที่ยวยุโรปด้วยรถไฟ 5 ประเทศ กับบรรยากาศเหนือจินตนาการ | เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

เตรียมพร้อมปักพิกัดเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปกับเส้นทางรถไฟ 5-6 ประเทศ ด้วยเส้นทางยอดฮิตที่เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศแถบยุโรป พร้อมความสะดวกสบายของการนั่งรถไฟ สัมผัสบรรยากาศการเดินทางแบบใหม่พร้อมวิวที่สวยงาม ที่ต้องลองมาให้ได้สักครั้ง

 

สวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ เส้นทางชมวิวที่สวยและโรแมนติกที่สุดในยุโรป

เที่ยวยุโรป

เริ่มต้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ไม่ควรพลาดกับการเดินทางไปพร้อม ๆ กับรถไฟแดงสวิตเซอร์แลนด์ ท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดความสวยงามของธรรมชาติกับเส้นทางยอดนิยม อย่างการเดินทางระหว่างเมือง Zermatt ถึงเมือง St. Moritz ที่จะใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 8-9 ชั่วโมง พร้อมพบกับวิวสวยงามของบ้านเมืองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงใกล้ชิดธรรมชาติอย่างทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ทะเลสาบ เทือกเขาสูงที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ธารน้ำแข็ง รวมถึงไฮไลท์สำคัญอย่างการลอดอุโมงค์และการแล่นผ่านช่องเขาโอแบร์อัลพ์ ที่ระดับความสูง 2,045 เมตร และพบกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต เช่น ภูเขาพิลาทุส สะพานไม้ชาเปล หุบเขาแวซาสก้า

เส้นทางการท่องเที่ยวและชมวิวธรรมชาติสวยๆ จะแตกต่างกันออกไป เรามาดูเส้นทางการนั่งรถไฟชมธรรมชาติไปกับ 5 เส้นทางรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ ไปพร้อมกันค่ะ

 

1. Glacier Express (กลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส)

เที่ยวยุโรป

Glacier Express เป็นรถไฟชมทัศนียภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งจาก St. Moritz สู่เมือง Zermatt ผ่านเทือกเขา Swiss Alps และยอดเขา Matterhorn อันโด่งดัง ชมทัศนียภาพอันล้ำสมัยนี้วิ่งผ่านธารน้ำแข็ง แม่น้ำ ทะเลสาบ ฤดูร้อนก็จะเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว ช่องเขาโอแบร์อัลพ์ ที่ระดับความสูง 2,045 เมตร ข้ามผ่านสะพาน 291 สะพาน 91 อุโมงค์ รถไฟขบวนเก่าแก่นี้จะพาคุณเพลิดเพลินใจไปกับวิวทิวทัศน์สุดโรแมนติกตลอดสองข้างทาง รวมไปถึงตู้รถไฟแบบทันสมัย ระบบรถไฟได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง ที่มีเครื่องปรับอากาศและหน้าต่างบานใหญ่สำหรับชมวิวเทือกเขาแนวยาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเรียงรายกันเป็นแนวยาว ซึ่งนับว่าเป็นสวรรค์ของคนที่รักธรรมชาติ ให้คุณสามารถผ่อนคลายบนที่นั่งสุดสบายเป็นรถไฟชมทัศนียภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งจาก St. Moritz สู่เมือง Zermatt ผ่านเทือกเขา Swiss Alps และยอดเขา Matterhorn อันโด่งดัง ชมทัศนียภาพอันล้ำสมัยนี้วิ่งผ่านธารน้ำแข็ง แม่น้ำ ทะเลสาบ ฤดูร้อนก็จะเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว ช่องเขาโอแบร์อัลพ์ ที่ระดับความสูง 2,045 เมตร ข้ามผ่านสะพาน 291 สะพาน 91 อุโมงค์ รถไฟขบวนเก่าแก่นี้จะพาคุณเพลิดเพลินใจไปกับวิวทิวทัศน์สุดโรแมนติกตลอดสองข้างทาง รวมไปถึงตู้รถไฟแบบทันสมัย ระบบรถไฟได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง ที่มีเครื่องปรับอากาศและหน้าต่างบานใหญ่สำหรับชมวิวเทือกเขาแนวยาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเรียงรายกันเป็นแนวยาว ซึ่งนับว่าเป็นสวรรค์ของคนที่รักธรรมชาติ ให้คุณสามารถผ่อนคลายบนที่นั่งสุดสบาย

 

2. Bernina Express (เบอร์นิน่า เอ็กซ์เพรส)

เที่ยวยุโรป

Bernina Express หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุด สูงที่สุดในยุโรป และเป็นเส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ อายุกว่า 100 ปี เชื่อมต่อเมืองทางตะวันออกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และภาคเหนือของประเทศอิตาลี ให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1910 จนถึงปัจจุบัน เป็น 1 ใน 3 เส้นทางรถไฟที่ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นรถไฟเส้นทางสายมรดกโลก ทัศนียภาพโดยรอบของธรรมชาติแบบ 360 องศา ผ่านกระจกบานใหญ่ ทั้งภูเขา Swiss Alps ที่ขึ้นชื่อ , ทะเลสาบ , น้ำตก สวยและคุ้มค่ากับการได้มาลองนั่งสุดๆค่ะ

 

3. Jungfraujoch Raiway (รถไฟขึ้นจุงเฟรา)

เที่ยวยุโรป

รถไฟขบวนนี้ขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) โดยขึ้นรถไฟจากสถานี Grindelwald และขากลับลงที่สถานี Lauterbrunnen วิ่งผ่านหมุ่บ้านและทุ่งหญิงเขียวขจีสดใสในฤดูร้อน และในฤดูหนาวหิมะขาวโพลน และยอดเขาที่สลับทับซ้อนไปมา กว้างไกลออกไปสุดตา เปลี่ยนขบวนรถไฟ ณ Klein Scheidegg เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาจุงเฟราและถือว่าเป็นจุดที่สามารถจะเห็นยอดเขาชื่อดังอย่าง Eiger Mönch และ Jungfrau เรียงกันตรงหน้าของเราได้อย่างชัดเจน รถไฟเริ่มสร้างตั้งแต่ ปลายศตวรรษที่ 19 ผู้สร้างคือ Adolf Guyer-Zeller ซึ่งเดิมถ้าใครอยากขึ้นไปเที่ยวต้องปีนป่ายเดินไต่ไปตามทางชันๆ เท่านั้น ใน ค.ศ.1896 เขาได้รับอนุมัติสัมปทานจากรัฐบาล ให้สร้างทางรถไฟจากบริเวณที่เรียกว่า Kleine Scheidegg เพื่อขึ้นสู่ยอดเขา การก่อสร้างเส้นทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก เริ่มต้นตั้งแต่เจาะภูเขา วางไม้หมอนลงทีละท่อน จนถึงวางรางรถไฟ แต่ปัจจุบันก็ได้สร้างมาอย่างแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์แบบสุดๆเลย

 

4. Golden Pass Line

เที่ยวยุโรป

รถไฟสาย Golden Pass Line เป็นหนึ่งสายรถไฟยอดนิยมในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นรถไฟสายชมวิว โดยรถไฟสายนี้ เริ่มต้นจาก Montreux – Zweisimmen – Interlaken – Lucerne เป็นรถไฟสายโรแมนติก บรรยายกาศบนรถไฟ Golden Pass Panoramic หน้าต่างจะกว้างมาก ทำให้สามารถชมวิวทิศทัศน์ได้แบบพาโนรามา 360 องศาได้สุดลูกหาลูกตาเลยค่ะ รถไฟท่องเที่ยว Golden Pass Line มีรถไฟสองชนิด หนึ่งคือ Golden Pass Panoramic วิ่งตลอดทั้งสาย และ Golden Pass Classic ที่วิ่งผ่านเฉพาะ ซไวซิมเมน (Zweisimmen) – มองเทรอซ์ (Montreux) สำหรับผู้ที่ถือ Swiss Pass (สวิสพาส) หรือ Eurail Global Pass สามารถขึ้นรถไฟบนเส้นทาง GoldenPass Line ได้ฟรี โดยไม่จองที่นั่งล่วงหน้า สามารถขึ้นตามชั้นที่นั่งที่ตรงกับพาสเดินทางได้เลยค่ะ

 

5. Gotthard Panorama Express

เที่ยวยุโรป

Gotthard Panorama Express หนึ่งในเส้นทางรถไฟและเรือ ที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นคือ Gotthard Panorama Express ที่เชื่อมระหว่างเมืองทะเลสาบชื่อดังสองแห่งคือ LUZERN กับ LUGANO เป็นเส้นทางรถไฟ และ เส้นทางเรือ ที่ผนวกรวมกัน การเดินทางจะเริ่มต้นจาก ทะเลสาบลูเซิร์น จนเทียบท่าที่ เฟลอเลิน (Fluelen) จากนั้นเปลี่ยนมานั่งรถไฟ เพื่อเดินทางไปยัง เมืองลูกาโน่ (Lugano) เมืองริมทะเลสาบ ที่ติดกับพรมแดนประเทศอิตาลี ระหว่างทางรถไฟจะวิ่งข้ามช่องเขาเซนต์กอททฮาร์ด (St.Gotthard ) ที่มีความยาว 15 กิโลเมตร ที่ตัดผ่านภูเขาใต้อันเดอร์แมตไปยัง ไอโรโล (Airolo)ในเขตรัฐติชีโน่ โดย รถไฟสายนี้คนที่จะนั่งได้ต้องถือสวิสทราเวลพาสแบบ First Class ใครที่ถือสวิสพาสแบบชั้น 2 อยู่ต้องทำการอัปเกรดตั๋วก่อนถึงจะจองที่นั่งขบวนนี้ได้

* สอบถามรายละเอียดโปรแกรมทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่นี่ *

 

ฝรั่งเศส เที่ยวฝรั่งเศสด้วยรถไฟสบายใจและประหยัดที่สุด เที่ยวให้ทั่วฝรั่งเศสแบบชิว ๆ ด้วยบัตร Eurail pass

เที่ยวยุโรป

 

หลาย ๆ คนคงอาจจะเคยความโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศสจากภายในหนังหรือแม้แต่ทางช่องทาง Youtube หรือแม้แต่ในข่าว ประเทศฝรั่งถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีคนไทยหลายต่อหลายคนนิยมกันไปโดยเฉพาะเมืองหลวงที่สวยงามอย่างปารีส ถึงแม้ว่าเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์ประท้วงก็ตาม แต่ตอนนี้เหตุการณ์ก็สงบลงแล้ว และหากใครที่สนใจจะมาท่องเที่ยวยังประเทศนี้ การเดินทางที่ดีที่สุดเลยก็คือการนั่งรถไฟ เพราะนอกจากช่วยให้ประหยัดเวลาในระหว่างท่องเที่ยวแล้ว ยังช่วยประหยัดงบประมาณอีกด้วยและบัตรรถไฟของประเทศฝรั่งเศสก็คือ Eurail Pass

เอาหล่ะ บัตร Eurail Pass ช่วยอะไรเราได้บ้างในการเดินทาง ?

ฝรั่งเศสนั้นเป็นประเทศที่ใหญ่อย่างมาก ถ้าจะให้ขึ้นเครื่องไปแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวในวันต่าง ๆ คงจะไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ไหนจะเวลาและไหนจะค่าใช้จ่ายอีก หากใครจะเช่ารถแล้วขับไปคงจะเสียเวลาในการเดินทางไม่น้อย และแน่นอนว่าต้องหลงทางอย่างแน่นอน เพราะงั้นแล้วนักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะเลือกเดินทางโดยรถไฟกันทั้งนั้นเลย

 

ข้อดีของการมีตั๋ว Eurail Pass

– สามารถช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยเวลาหลงก็หลงแค่ในสถานีรถไฟเท่านั้น
– ได้รับชมวิวของประเทศฝรั่งได้ทุก ๆ ที่เมื่อรถไฟวิ่งผ่าน
– ไม่ต้องเสียเวลาซื้อบัตรรถไฟหลาย ๆ ใบให้วุ่นวาย เพียงแค่มีบัตรใบนี้ใบเดียวทุกอย่างจบ
– บัตรรถไฟราคาถูกกว่าตั๋วเครื่องบินอย่างมาก
– สามารถเลือกวันสำหรับบัตรได้สูงสุด 8 วัน
– มีที่นั่งทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง เลือกแบบไหนก็คุ้มค่ากับเงินที่เสีย
– บริการจัดส่งบัตร Eurail Pass ถึงบ้าน
– สถานีรถไฟแต่ละพื้นที่ยังอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกได้ว่าลงสถานีปุบเดินถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ของแต่ละเมืองได้เลย

หากใครที่กำลังมีความฝันอยากที่จะไปเที่ยวต่างประเทศในโซนยุโรป ประเทศฝรั่งเศสจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับทุก ๆ คน และคนที่คิดจะไปแล้วการเดินทางโดยรถไฟจึงเป็นทางเลือกหลักสำหรับทุก ๆ คนเมื่อไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศส และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ประกันคุ้มครองสำหรับการเดินทาง อย่าลืมทำกันด้วยนะครับเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

 

แนะนำทริคเที่ยวยุโรป เที่ยวยังไงให้ปลอดภัย สบายใจ ไม่ยุ่งยาก พร้อมเกร็ดความรู้ที่จะทำให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายใจ!

เที่ยวยุโรป

ฝรั่งเศส (France) หนึ่งในประเทศที่รองรับวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ของยุโรป เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แฟชั่นนำสมัย สินค้าแบรนด์เนม น้ำหอม และเบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังที่สุดในยุโรป และเป็นสถานที่สุดโรแมนติกที่หนุ่มสาวนักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเที่ยวหรือฮันนีมูนกัน ใครที่หลงไหลหรือชื่นชอบในวัฒนธรรมและความสวยงามของฝรั่งเศส บอกเลยว่าต้องลองไปเที่ยวดูสักครั้ง!

1. แต่ในการเดินทางไปเที่ยว(ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม) จำเป็นต้องมีการทำความเข้าใจและวางแผนการเดินทางไว้อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาหรือเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำทริคสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศส

รวม 14 เกร็ดน่ารู้ เที่ยวฝรั่งเศสสุดชิค ฟินได้ไม่มีสะดุด
ประเทศฝรั่งเศสมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – มิถุนายน)
ฤดูร้อน (มิถุนายน – กันยายน)
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ธันวาคม)
ฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม)
ซึ่งในแต่ละฤดูจะมีการปรับเวลาให้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้น ฤดูร้อน เวลาจะช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง / ฤดูหนาว เวลาจะช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง

2. ฝรั่งเศสไม่ค่อยมีห้องน้ำสาธารณะฟรี บางครั้งคุณต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 0.50 ยูโร ในการใช้บริการห้องน้ำบางแห่ง ซึ่งคุณต้องคอยลุ้นอีกว่าห้องน้ำนั้นจะสะอาดหรือไม่

3. คุณสามารถดื่มน้ำดื่มฟรีได้จากรูปปั้นสีเขียวที่มีป้าย “Eau potable” ซึ่งเป็นน้ำสะอาด สามารถนำขวดน้ำมากรอกดื่มได้

4. หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน เภสัชกรฝรั่งเศสจ่ายยาให้เฉพาะผู้ที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น *ควรพกยาไปเอง โดยเฉพาะยาแก้อักเสบ*

5. คลินิกการแพทย์ต่าง ๆ จะไม่รับผู้ป่วยที่ไม่ได้ทำการนัดไว้ล่วงหน้า ดังนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยต้องทำการโทรนัดล่วงหน้าก่อน (อาจให้เจ้าหน้าของโรงแรมที่พักช่วยโทรนัดให้ก็ได้)

6. ควรเก็บสัมภาระและของมีค่า รวมไปถึงพาสปอร์ตตัวจริงไว้ที่โรงแรม พกแค่เงินกับสำเนาพาสปอร์ตก็พอ

7. ระวังทรัพย์สินของตัวเองไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเงินหรือโทรศัพท์มือถือ เพราะฝรั่งเศสถือเป็นประเทศที่มีคนไร้บ้าน(Homeless)และยิปซี “เยอะมาก” ซึ่งบางครั้งคนเหล่านี้อาจทำทีเป็นชวนคุย ถามทาง เดินตาม หรืออาสาถ่ายรูปให้ ก่อนปิดท้ายด้วยการแอบขโมยของของคุณไปแบบเนียน ๆ

8. ฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการใช้เครื่องอัตโนมัติในการจำหน่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ การใช้เหรียญจึงถือเป็นสิ่งสำคัญสุด ๆ

9. ร้านค้าในฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น ร้านเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ร้านขายขนมปัง ร้านขายของชำ และซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ จำเป็นต้องซื้อถุงเพิ่ม(ไม่แจกถุง) อย่าลืมพกถุงผ้าหรือถุงพลาสติกไปด้วย

10. ตามสถานีรถไฟใต้ดินของฝรั่งเศสจะไม่มีเจ้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่คอยแนะนำทางให้ ดังนั้น คุณต้องเช็ควิธีการเดินทางและดูแลทรัพย์สินของตัวเองให้ดี

11. หากซื้อตั๋วรถไฟจากตู้อัตโนมัติ แล้วได้ตั๋วผิดประเภทหรือผิดสาย จะไม่มีการคืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น

12. ประเทศฝรั่งเศสสามารถนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปกินภายในสถานีรถไฟใต้ และยังสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟได้อีกด้วย

13. ประตูรถไฟของฝรั่งเศสมีหลายแบบ ทั้งแบบอัตโนมัติ(เหมือนของบ้านเรา) แบบกดปุ่ม และแบบยกคันโยก เวลาขึ้นรถไฟอย่าลืมสังเกตประตูให้ดีนะ

14. ประเทศฝรั่งเศสไม่มีการกำหนดที่นั่งพิเศษบนรถสาธารณะ (ไม่ว่าจะรถไฟหรือรถเมล์) สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจ

ถือเป็นทริคเล็ก ๆ น้อยๆ ที่เราแนะนำให้แก่ทุกคนแบบคร่าว ๆ ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวฝรั่งเศส อย่าลืมวางแผนการเดินทางไว้ให้พร้อม นอกจากนี้คุณยังสามารถจองกิจกรรมท่องเที่ยว บัตรรถไฟ บัตรอำนวยความสะดวก และบริการอื่น ๆ ในฝรั่งเศสได้แล้วที่ MESUB TRAVEL

นั่งรถไฟลุยสเปน แดนกระทิงดุ

เที่ยวยุโรป

ประเทศสเปน เป็นประเทศที่พอพูดถึงทีไรก็จะนึกถึงการเฉลิมฉลอง งานรื่นเริง และความสนุกสนานของผู้คนที่นั้น ประเทศสเปนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในยุโรปที่มีอากาศค่อนข้างอุ่น แสงแดดเข้าถึงตลอดเวลาแม้ในฤดูหนาว

ประเทศสเปนเป็นประเทศที่มีมรดกโลกเยอะที่สุดรองลงมาจากประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นเหล่าสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ตามเมืองต่างๆ นอกจากศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของสเปนแล้ว สเปนยังมีอาหารเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น โดยอาหารท้องถิ่นของสเปนนั้นค่อนข้างแตกต่างจากอาหารในประเทศยุโรปอื่นๆทั่วไป เป็นที่สนใจและน่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

สเปน ประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรปที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการท่องเที่ยว ทั้งยังมีพรมแดนติดกับประเทศฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวเทือกเขาพิรินี ทางทิศเหนือติดกับอันดอร์ราและอ่าวบิสเคย์ ทางทิศใต้ติดกับยิบรอลตาร์ และทางทิศตะวันตกติดกับประเทศโปรตุเกส ทำให้เหมาะเป็นเมืองที่จะนั่งรถไฟท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญในประเทษสเปนเองก็มีเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ กรุงมาดริด บาร์เซโลนา บาเลนเซีย เซบิยา ซาราโกซา มาลากา กับสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนที่อยากนั่งรถไฟท่องเที่ยวในสเปนมีเส้นทางเดินรถไฟหลากหลายเส้นทางให้เลือก เช่น บาร์เซโลนาถึงมาดริด บาร์เซโลนาถึงซูริก มาดริดถึงเบอร์ลิน บาร์เซโลนาถึงปารีส บาร์เซโลนาถึงเวนิส และมาดริดถึงลิสบอน เป็นต้น

 

เที่ยวไหนดีนะในสเปน?

ประเทศสเปนเป็นประเทศที่ค่อนข้างใหญ่และมีหลากหลายเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น บาร์เซโลน่า มาดริด และเมืองเล็กๆอื่นๆอีกมากมาย โดยในแต่ละเมืองก็จะมีบรรยากาศและลักษณะของสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ตึกรามบ้านช่อง ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเมืองนั้นๆตั้งแต่อดีตไปจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแล้วถ้าใครแพลนจะมาเที่ยวที่ประเทศสเปน ขอให้เตรียมวันมาให้เยอะๆ เพราะประเทศนี้น่าเที่ยวมากๆ

เที่ยวยุโรป

1) บาร์เซโลน่า (BARCELONA): มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia), คาซ่าบัตโล่ (Casa Batllo), คาซ่ามิล่า (Casa Mila), ปาร์คกูเอล (Parc Guell), ถนนคนเดินรัมบลาส (La Ramblas), พลาซ่ากาตาลุญญา (Catalunya Plaza), พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ (Picasso Museum), ตลาดสดบุคเคอเรีย (Boqueria Market), ชายหาด Barceloneta, เนินเขามองต์คูอิก (Montjuic) และน้ำพุมหัศจรรย์ (Magic Fountain of Montjuic)

เที่ยวยุโรป

1.2) เมืองอื่นใกล้ๆบาร์เซโลน่า: เจโรนา (Girona) – สะพานไอเฟล (Eiffel Bridge), Arab Baths, Plaza de la Independencia, โบสถ์เจโรนา (Girona Cathedral) และกำแพงเจโรนา (Girona Wall) / ซีเจส (Sitges) – ชายหาด, พิพิธภัณฑ์ Maricel, พิพิธภัณฑ์ Cau Ferrat / มอนต์เซอร์รัต (Montserrat)

เที่ยวยุโรป

2) มาดริด (MADRID): พระราชวังหลวงมาดริด (Madrid Royal Palace), ตลาดซานมิเกล (San Miguel Market), พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ National Museum Art Center Reina Sofia, Puerta del Sol, พิพิธภัณฑ์ปราโด (Prado Museum), จัตุรัส Cybele, สวนสาธารณะ Retiro, Plaza Mayor of Madrid และ Gate of Alcala

เที่ยวยุโรป

3) โทลีโด (TOLEDO): เมืองเก่าโทลีโด (Toledo Old Town), มหาวิหารโทลีโด (Cathedral Primada), Monastery of San Juan de Los Reyes, ประตูเมืองโทลีโด (Puerta del Sol และ Puerta de Bisagra), สะพาน San Martin, พิพิธภัณฑ์ El Greco, จุดชมวิวเมือง Mirador del Valle, โบสถ์ San Ildefonso, โบสถ์ Santo Tome, Puente de Alcantara, ป้อมปราการโทลีโด (Alcazar of Toledo)

เที่ยวยุโรป

4) เซบียา (SEVILLE): มหาวิหารเซบียา (Cathedral of Seville), หอระฆังจิรัลด้า (Giralda Bell Tower), สวนสาธารณะ (Maria Luisa), พระราชวัง Royal Alcazar, Plaza de Espana, Tower of Gold (Torre de Oro), ถนนซานตาครูซ (Santa Cruz Street) และ Casa de Pilatos

เที่ยวยุโรป

5) รอนด้า (RONDA): เมืองเก่ารอนด้า (Ronda Old Town), สนามแข่งวัวกระทิงรอนด้า (Bullring Ronda), พระราชวัง Moorish, สะพาน Puente Neuvo, Arabic Baths และ Arena

เที่ยวยุโรป

6) มาลากา (MALAGA): เมืองเก่ามาลากา (Malaga Old Town), Plaza de la Constitucion, พิพิธภัณฑ์ปาโบล ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso Museum), ท่าเรือมาลากา (Malaga Port), Alcazaba, มหาวิหารมาลากา (Malaga Cathedral), อัฒจันทร์โรมันโบราณ (Roman Theater), ปราสาท Gibralfaro, Plaza Merced, Mercado de la Merced, สนามแข่งวัวกระทิงมาลากา (Malaga Bullring), Mercado Atarazanas และชายหาด La Malagueta

เที่ยวยุโรป

7) กรานาดา (GRANADA): พระราชวังอาลัมบรา (Alhambra Palace), Albaicin, มหาวิหารกรานาดา (Cathedral of Granada), สวน Carmen de Los Martires และพระราชวัง Charles V

เที่ยวยุโรป

8) บาเลนเซีย (VALENCIA): มหาวิหารวาเลนเซีย (Valencia Cathedral), Torres de Serranos, La Lonja de la Seda, El Miguelete, ตลาด Mercado Central (Mercado Central Market), Plaza de la Reina, ศาลาว่าการวาเลนเซีย (Valencia Town Hall), พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Fine Arts Museum และ Plaza del Ayuntamiento

เที่ยวยุโรป

9) เกาะต่างๆ: เกาะอิบิซา (Ibiza), เกาะมินอร์กา (Menorca) และเกาะมายอร์กา (Mallorca)

เยอรมัน นั่งรถไฟเที่ยวเพื่อสัมผัสกับความสวยงาม

เที่ยวยุโรป

เยอรมันประเทศท่องเที่ยวในยุโรปที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่ง เพราะมีเสน่ห์เฉพาะตัวของสถานที่ท่องเที่ยวและภูมิประเทศที่สวยงาม ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟเที่ยวเพื่อสัมผัสกับความสวยงามเหล่านี้ได้แบบเต็ม ๆ ทั้งเส้นทางรถไฟภายในประเทศเยอรมนีกับเส้นทางรถไฟข้ามประเทศยอดนิยม อาทิ บูดาเปสต์-มิวนิก มอสโก-เบอร์ลิน แฟรงก์เฟิร์ต-ฮัมบูร์ก โรม-มิวนิก มิวนิก-มิลาน เป็นต้น ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งภายในประเทศและการท่องเที่ยวแบบข้ามประเทศ เตรียมพบกับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลากหลายแห่งอย่าง ปราสาทนอยชวานชไตน์ พระราชวังเรสซิเดนท์มิวนิค ปราสาทไฮเดนเบิร์ก และยังได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของเยอรมันได้อีกด้วย

ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับ ยูเรลเยอรมันพาส E-TICKET ตั๋วรถไฟเยอรมัน กันว่าคืออะไร

German Rail Pass เยอรมันพาส คือบัตรโดยสารที่ครอบคลุมมากที่สุดสำหรับการเดินทางในประเทศเยอรมนี หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุโรป แวะเยี่ยมชมเมืองที่สื่อถึงสัญลักษณ์ของประเทศอย่างเบอร์ลิน มิวนิก ไลพ์ซิก และแฟรงเฟิร์ต และรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมกับการเดินทางไปประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากเยอรมนี! บัตร German Rail ให้คุณเดินทางได้อย่างอิสระไม่จำกัดการเดินทางโดย รถไฟเยอรมัน ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ตามแต่ต้องการ นอกจากนี้ คุณยังโดยสารรถไฟกี่ครั้งก็ได้ภายในวันที่กำหนด โดยไม่ต้องกังวลกับระยะทาง ทั้งหมดนี้อยู่ในราคาเดียว

พาสรถไฟเยอรมันนี บัตรโดยสารเยอรมันพาสจะพาคุณไปเมืองสำคัญได้แก่ เบอร์ลิน Berlin มิวนิค Munich สตุทท์การ์ดต Stuttgart แฮมเบิร์ก Hamburg โคโลจ์น Cologne และยังสามารถข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตชายแดนติดกันอย่างทางเลือกหลากหลายในการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟทั่วเยอรมันนี รวมรถไฟ ICE International trains ไปยัง Liege และ Brussels เบลเยียมBelgium ขบวนรถไฟ DB-OBB EuroCity trains ไปสู่ Innsbruck ออสเตรียAustria Bolzano Trento Verona Bologna และ Venice อิตาลีItaly เป็นต้น

 

เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวเยอรมนี กับรถไฟประเภทต่างๆในเยอรมนี | เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป

1.Intercity Express หรือ ICE รถไฟประเภท ไอซีอี เป็นรถไฟความเร็วสูงวิ่งเชื่อมระหว่างเมืองใหญ่หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญในเยอรมนี รถไฟชนิดนี้ทำความเร็วได้สูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางขบวนวิ่งข้ามพรมแดนออกไปยังหลายเมืองในประเทศข้างเคียงด้วย เช่น ปารีส บรัสเซลส์ อัมสเตอร์ดัม ปราก มิลาน ซูริค บาเซิ่ล

รถไฟ ICE ถือว่าเป็นที่นิยมในเยอรมนี เพราะมีความรวดเร็ว สะอาดและปลอดภัย โดยมีเส้นทางวิ่งยาวไปตามเมืองต่างๆจากเหนือลงใต้ เช่นคุณอยากเดินทางจากแฟรงเฟิร์ต ลงไปยังมิวนิค คุณต้องซื้อตั๋วรถไฟ ICE เวลาเลือกขบวน พยายามเลือกขบวนที่วิ่งตรงไม่มีการเปลี่ยนขบวน แต่โดยปกติถ้าวิ่งระหว่างเมืองใหญ่จะไม่มีการเปลี่ยนขบวน

รถไฟ ICE เป็นรถไฟที่ตรงเวลามาก ที่นั่งทุกเบาะจะมีแผ่นพับบอกเส้นทางเอาไว้ให้ผู้โดยสารทราบ ซึ่งเราสามารถเลือกที่นั่งแบบมีโต๊ะทำงาน ที่นั่งติดหน้าต่าง ที่นั่งแบบมีกระจกกั้นเป็นห้อง หากไปแบบครอบครัว นอกจากนี้ บนรถไฟมีตู้สเบียง อยู่ทุกขบวน ซึ่งรถไฟชนิดนี้มีแบบชั้น 1 และชั้น2 โดยชั้น 1 จะมีทั่งนั่งกว้างขวาง มีไวไฟให้ใช้ มีอาหารบริการ ด้านบนของที่วางสัมภาระเหนือหัว จะมีเลขที่นั่งและปลายทางของ เจ้าของที่นั่งบอก หากคุณได้ทำการจองเอาไว้ผ่านทางเซ็บไวต์ Bahn.de ซึ่งแอดมินแนะนำหากคุณไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้แต่อยากนั่งรถไฟโดยที่ไม่มีใครมาไล่ที่ ให้มองดูจอตามที่นั่งว่าที่นั่งไหน ที่คนจองจะขึ้นหลังจากจุดหมายปลายทางของเราแล้ว เพราะนั่นหมายถึงคุณนั่งได้สบาย แต่หากคุณมีสัมภาระเยอะ และเดินทางไกล แนะนำให้ซื้อตั๋วและจองที่นั่งล่วงหน้าจะดีที่สุด

2.Intercity (IC) และ Eurocity (EC) รถไฟ IC และ EC เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองหลักๆ ในเยอรมนีแต่ขบวน EC นั้นจะวิ่งข้ามพรมแดนไปยังประเทศข้างเคียงด้วย ความเร็วของรถไฟประเภทนี้จะสู้ ICE ไม่ได้ แต่ด้วยความที่ไม่จอดบ่อยถือว่าทำเวลาได้ดีพอสมควร ตู้โดยสารมีทั้ง 1 และชั้น 2 ที่นั่งและสิ่งอำนวยความสะดวกอาจด้อยไปกว่ารถไฟ ICEบ้าง แต่ก็มีตู้เสบียงและรถเข็นขายเครื่องอื่ม อาหารไว้บริการเหมือนกัน

3.Regional Express (RE) ,Regional Train (RB) และ S-Bahn และ U-Bahn รถไฟ RE,RB และ S-Bahn คือรถไฟท้องถิ่น ที่วิ่งเชื่อมเมืองใหญ่ในภูมิภาคกับเมืองรอง ซึ่งรถไฟ RE วิ่งเร็วที่สุด เพราะเลือกจอดเฉพาะสถานีสำคัญ ส่วนรถไฟ RB จอดทุกสถานี ส่วนS-Bahn คือรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งเชื่อมเมืองใหญ่กับเขตชานเมือง มีเฉพาะเมืองใหญ่ เช่น เบอร์ลิน มิวนิค แฟรงค์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก เนิร์นแบร์ก เป็นต้น รถไฟประเภทนี้มีตู้โดยสารแบบชั้น1 ค่อนข้างน้อย ไม่มีตู้เสบียง แต่มีห้องน้ำไว้บริการ ส่วนรถไฟ S-Bahn (เอส บาห์น) ก็คือรถไฟฟ้าใต้ดินนั่นเอง ส่วน U-Bahn (อู บาห์น) ก็คือรถไฟฟ้าBTS ของเรานั่นเองวิ่งในเมือง

นอกจากนี้ยังมีรถไฟกลางคืนข้ามพรมแดน หรือ City Night Line (CNL) รถด่วนข้ามพรมแดน หรือ Euro Night (EN) ซึ่งเป็นรถนอนวิ่งตอนกลางคืนไปยังเมืองต่างๆ ในประเทศข้างเคียง ส่วนรถไฟกลางคืนวิ่งในเยอรมนีคือ NZ รถไฟแบบนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเสียค่าโรงแรมและอยากจะเดินทางช่วงกลางคืน ก็เลือกการนอนบนรถไฟระหง่างเดินทางเปลี่ยนเมือง

วิธีการใช้บริการและซื้อตัวรถไฟเยอรมนี

– ซื้อผ่านตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ ส่วนใหญ่เป็นพวกรถไฟที่เดินทางภายในเมือง เช่น U banh S Bahn วิธีซื้อไม่ยากให้เลือกเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วทำตามหน้าจอบอก เลือกปลายทาง จำนวนผู้เดินทาง ซึ่งเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติจะรับแค่ ธนบัตร 20 10 5 เหรียญ 1 2 € 50 20 centเล็กกว่านั้นไม่รับ
– ซื้อผ่านเว็บไซต์ แนะนำว่าถ้าคุณเดินทางข้ามเมืองหรือนั่งรถICE ควรจองล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์โดยสามารถเข้าไปจองได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทซึ่งจะราคาถูกกว่าจองกระชั้นชิด บางทีมีส่วนลดดีๆ สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกนอกยุโรป ง่ายๆคือคุณอยู่ไทย ก็ใช้บัตรเครดิตคุณจ่ายได้ แล้วเลือกรับตัวแบบปริ้นเอง พอซื้อตั๋วเสร็จก็ปริ้นใส่กระดาษเอ4 เก็บไว้เพราะนายตรวจจะมาตรวจ เก็บตั๋วให้ดี เพราะถ้าตั๋วหายคุณโดนให้ซื้อตั๋วใหม่หรืออาจโดนปรับด้วย
– ซื้อกับเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเยอรมัน ณ สถานที่รถไฟ hauptbahnhof (ฮอปท์บาห์นโฮฟ) ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถพูดอังกฤษได้ ถ้าคุณไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็เขียนสถานี ต้นทาง ปลายทางให้เจ้าหน้าที่ดู เขาก็ทำการออกตั๋วให้

ทั้งนี้เมื่อซื้อตั๋วแล้ว บางเมืองคุณต้องนำตั๋วไปแสตมป์กับเครื่องตอกบัตร เพื่อให้รู้ว่าเราเริ่มใช้งานแล้ว แล้วก็เก็บตั๋วโดยสารกับตัวไว้ให้ดี สำหรับเครื่องแสตมป์ตั๋ว จะตั้งอยู่ตรงทางขึ้น ลง สถานีรถไฟ

อย่างไรก็ตามในบางเมืองไม่จำเป็นต้องนำตั๋วโดยสารไปแสตมป์เพราะตอนซื้อตั๋ว เครื่องจะระบุวันที่ต้องการใช้ตั๋วลงในบัตรโดยสาร ก็ควรอ่านบัตรโดยสารของตัวเองก่อนว่ามีวันเวลา Validate แล้วหรือยัง ถ้ายังแสดงว่าต้องสแตมป์ตั๋ว

เลือกประเภทตั๋วโดยสารให้เหมาะกับการเดินทาง

ตั๋วโดยสารรถไฟจะมีประเภทต่างๆให้เลือกอยากให้คุณเลือกให้เหมาะกับการเดินทางของคุณ อาทิเช่นวันนั้นคุณจะเดินทางด้วยรถไฟเยอะแค่ไหน ถ้าเยอะก็ซื้อตั๋ววัน โดยประเภทบัตรตั๋วโดยสารรถไฟแบ่งตามนี้ค่ะ

ตั๋วเที่ยวเดียวระยะสั้น Short Trip Ticket /City-Tarif (Kurzstrecke) เหมาะใช้สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียวในระยะทางที่ไม่ไกล เช่นไม่เกิน 4 สถานีกับรถ U Bahn หรือ สองป้าย S Bahn

ตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว Single Ticket(Einzelkarte) ใช้สำหรับการเดินทางที่มีระยะไกลกว่าตั๋วเที่ยวเดียวระยะสั้น ซึ่งมักระบุเป็นโซน อาทิเช่นนั่งรถไฟไปเที่ยวในเมืองก็เลือกแบบตั๋วเที่ยวโซน 1-2 ราคาจะแพงกว่าตั๋วแบบแรก ตั๋วชนิดนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ตั๋ววัน Day Trip (Tageskarte) ถ้าคุณคิดว่าจะต้องโดยสารรถไฟในวันนั้นมากกว่า 4-5 ครั้ง แนะนำให้ซื้อตั๋ววัน เพราะสามารถใช้ได้กับทุกประเภทรถไฟ และรถเมล์ ยกเว้น ICE ตั๋วมีให้เลือกระบุตั้งแต่การใช้ 1-3 วัน และเวลาซื้อต้องระบุโซนที่จะใช้ด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้ไม่เกิน โซน 1-2

ตั๋ววันแบบกลุ่ม Partnet Day Ticket (Gruppentageskarte) หากคุณมีผู้ร่วมเดินทางตั้งแต่ 2-5 ร แนะนำให้ซื้อตั๋วชนิดนี้เพราะประหยัดกว่า และช่วยประหยัดค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆด้วย

ตั๋วท่องเที่ยว City Tour Card ตั๋วประเภทนี้คุณสามารถใช้ระบบขนส่งมวลชนได้ทุกชนิดภายในเมืองเดียวกันและสามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ด้วย

ข้อควรรู้ รถไฟ รถรางทุกชนิดทุกเมืองในเยอรมัน ประตูไม่เปิดเองโดยอัตโนมัติ หากต้องการจะลงหรือขึ้น จะต้องกดปุ่มประตูเปิดทุกครั้ง และก่อนถึงสถานีให้ฟังเจ้าหน้าที่ประกาศว่าประตูรถไฟเปิดทางด้านใด หากไม่รู้ภาษาเยอรมัน แอดมินแนะนำให้จำสองคำนี้ไว้ ถ้าได้ยินคำว่า Links (ลิงค์ส) คือ ซ้าย หมายถึงประตูจะเปิดทางด้านซ้าย ส่วนถ้าได้ยินคำว่า Recht (เร็คท์) หมายถึงประตูจะเปิดทางด้านขวา จะได้เดินไปรอยังทิศที่ประตูจะเปิด

ที่สำคัญเมื่อไปถึงสถานีรถไฟให้เช็คตารางเวลารถไฟของเราที่จอมอนิเตอร์ใหญ่ในสถานีและเดินไปรอที่ชานชลาแต่เนิ่นๆนะคะเพราะรถไฟที่เยอรมนีตรงเวลาเป๊ะ ลองศึกษาการซื้อตั๋วและขบวนรถไฟแบบต่างๆของเยอรมันก่อนเดินทางนะคะเพื่อที่คุณจะได้เดินทางท่องเที่ยวสบาย หายห่วง

อิตาลี นั่งรถไฟท่องเที่ยวประเทศอิตาลี

เที่ยวยุโรป

เที่ยวยุโรป | ประเทศอิตาลีเป็นประเทศท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ เมื่อเดินทางมายังทวีปยุโรป นอกจากมีสิ่งปลูกสร้างที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวแล้ว ยังให้คุณสามารถนั่งรถไฟเที่ยวอิตาลีกับเส้นทางการเดินรถไฟเพื่อชมจุดชมวิวสวย ๆ ทั้งภูเขา ทะเล หรือเดินทางท่องเที่ยวที่ครบครัน อาทิ การ นั่งรถไฟระหว่าง Levanto และ La Spezia การเดินทางจากเนเปิลส์ซอร์เรน การเดินทางจาก Venice ถึง ฟลอเรนซ์ หรือจากมิลานไปโบลซาโน กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งหลายอย่าง ภูเขาไฟวิสุเวียส อ่าวเนเปิลส์ เป็นต้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือผู้ที่ชอบค้นหาความงามของภูมิประเทศที่หลากหลายของอิตาลี แผนการเดินทางอิตาลีสุดคลาสสิกที่นำมาเสนอนี้ เป็นแผนการเดินทางที่คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี โดยรวบรวมไฮไลท์ต่างๆ ของประเทศที่มีเสน่ห์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางไปอิตาลีของคุณนั้นง่ายขึ้นมาก! ตั้งแต่สถานที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของและสมบัติทางศิลปะของ ไปจนถึงชายฝั่งอามาลฟีที่มีแสงแดดสดใส และเสน่ห์อันโรแมนติกของ แผนการเดินทางที่นำเสนอนี้ จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกวันจะเป็นการผจญภัยที่แปลกใหม่ในอิตาลีสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ลิ้มรสอาหารเลิศรส และค้นพบสถานที่สำคัญๆ ที่ซ่อนอยู่ด้วยทริปหนึ่งวัน ทั้งหมดนี้จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับคุณ ทำให้การมาเยือนอิตาลีของคุณเป็นการเดินทางครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าจดจำ

 

ทำรู้จักกับ Italo กับ Trenitalia

เที่ยวยุโรป
การทำความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ 2 รายของอิตาลี Italo และ Trenitalia เป็นสิ่งที่จำเป็นในการวางแผนการพักผ่อนในของคุณ! ผู้ให้บริการรายใหญ่ทั้ง 2 รายนี้ ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันทั้งในด้านราคา คุณภาพการบริการ และความครอบคลุมของพื้นที่

Italo ขึ้นชื่อเรื่องรถไฟที่ทันสมัยและมีรูปลักณ์ที่โฉบเฉี่ยว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาการเดินทาง ที่หรูหรา สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Wi-Fi ฟรี ปลั๊กไฟ และความบันเทิงบนรถไฟ อย่างไรก็ตาม หากคุณให้ความสำคัญในเรื่องงบประมาณ ราคาตั๋วของ Italo อาจมีราคาที่สูงขึ้นเล็กน้อย

ในขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟท้องถิ่นอย่าง มีเครือข่ายรถไฟที่ครอบคลุมและตัวเลือกตั๋วที่มากกว่า ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่าเช่นกัน เมื่อต้องเลือกระหว่างสองผู้ให้บริการนี้ ให้พิจารณาลำดับความสำคัญของคุณ — ไม่ว่าจะเป็นความหรูหราและความสะดวกสบาย หรือความคุ้มค่าที่คุณต้องการ

ในแง่ของประเภทตั๋ว ทั้งสองผู้ให้บริการมีข้อเสนอที่หลากหลาย โดยแต่ละประเภทมีสิทธิพิเศษที่ความ แตกต่างกัน รวมถึงนโยบายการคืนเงิน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่นั่ง และความหรูหรา
บัตรโดยสารชั้นหนึ่งมักจะได้ที่นั่งที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เครื่องดื่มฟรี และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ตั๋วชั้นสองนั้นสามารถประหยัดได้มากกว่าและยังให้การเดินทางที่สะดวกสบายไม่แพ้กัน!

ประเภทตั๋ว เที่ยวยุโรป
ส่วนใหญ่เช่น Italo และ Trenitalia มีตั๋วรถไฟ 4 ประเภท: ชั้นหนึ่ง (คืนเงินได้), ชั้นหนึ่ง (มีเงื่อนไขที่ต่างกัน), ชั้นสอง (คืนเงินได้) และชั้นสอง (มีเงื่อนไขที่ต่างกัน) หากคุณมีแผนการนั่งรถไฟหลายขบวนแยกกัน แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบจุดต่อจุด ซึ่งให้ความยืดหยุ่นมากกว่า! ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก่อนเดินทางขอให้ทุกท่านวางแผนให้ดี การท่องเที่ยวของท่านจะสนุก และประหยัดได้อีกมากเลยล่ะค่ะ

บริการยื่นวีซ่า ต่อวีซ่า โปรแกรมทัวร์ เที่ยวยุโรป ง่ายๆ กับ MESUB TRAVEL เที่ยวยุโรป สะดวก รวดเร็ว ทีมงานของเรายินดีดูแลเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ในวงการมากกว่าหลายสิบปี การันตีด้วยลูกค้ามากมาย

เปิดให้บริการ: จันทร์ – ศุกร์ 09.30-18.00

ออนไลน์ 09.30-18.00 (ทุกวัน)

LINE Official: @mesubtravel

TEL: ไทย 09-5653-8299, 083-468-5325

ENG 09-2966-9045

中文 08-1009-0558

FB Page: MESUB visa&travel บริการด้านวีซ่าครบวงจร

Email: mesubvisa@gmail.com

ทำไมถึงถูกปฏิเสธวีซ่า?

บทความที่เกี่ยวข้อง