เมืองน่าเที่ยว สเปน

5 เมืองน่าเที่ยว สเปน ใครไม่เคยไป ต้องลองไปสัมผัสสักครั้ง!

 

เมืองน่าเที่ยว สเปน  หากพูดถึง เมืองน่าเที่ยว สเปน ภาพวัวกระทิงตัวใหญ่ ผืนผ้าสีแดง และชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยกางเกงรัดรูป ถุงเท้าสียกสูง เสื้อผ้าปักด้วยดิ้นสีทองตกแต่งสวยงามราวกับเจ้าชายในเทพนิยายกับท่วงท่าลีลาการฉวัดเฉวียนผ้าสีแดงผึบผับหลอกล่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าไปมา นี่คงเป็นภาพแรกของฉันที่ทำให้รู้จักกับประเทศสเปน

สเปน (Spain) หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรสเปน (Kingdom of Spain) สเปนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับฝรั่งเศส ทางฝั่งซ้ายติดกับโปรตุเกส พื้นที่ของประเทศมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 51 ของโลกรองจากประเทศไทย

ใครชอบท่องเที่ยวสไตล์สถาปัตยกรรมมาสเปนรับรองไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่เผยตัวอยู่ตามเมืองสำคัญต่างๆ ถ้าใครชอบเที่ยวสถาปัตยกรรมแต่ขอแทรกธรรมชาติไว้ด้วยสเปนก็มีเหมือนกัน และถ้าใครชอบเที่ยวและเป็นแฟนทีมฟุตบอลสโมสรดังๆ ประเทศสเปนก็ตอบโจทย์นะ เรียกว่ามาประเทศเดียวครบเครื่องเลยใช่ไหม ฟรีเบิร์ด ทราเวิล แอนด์ ทัวร์ ชวนกระโดดขึ้นเครื่องบินเยือนถิ่นกระทิง เที่ยว 5 เมืองสวยคุณค่าที่คู่ควร

เตรียมเอกสารยื่นวีซ่าพร้อมกับประกันเดินทางแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะวางแผนเที่ยวประเทศสุดอันซีนอย่างสเปน แม้โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี สำหรับทริปยุโรป และมักลืมว่าการเที่ยวสเปนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เผลอๆ หลายคนมักจะไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะทำประกันเดินทางแต่ละทีสำหรับการเที่ยวสเปน ควรจะต้องใช้ประกันเดินทางสเปนโดยเฉพาะ หรือเลือกซื้อประกันเชงเก้นและประกันยุโรปแบบธรรมดาได้ ดังนั้นขอเฉลยเลยว่าหากอยากเที่ยวสเปน เราสามารถซื้อประกันเดินทางเชงเก้นได้ เพราะสเปนถือเป็น 1 ใน 26 ประเทศที่รวมอยู่ในเครือเชงเก้น แต่ก่อนที่จะวางแผนการเดินทางนั้น เราลองมาเจาะลึกสถานที่เที่ยวสเปนสุดฮิตกันดูก่อน จะได้มีไอเดียว่าควรเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง

เมืองน่าเที่ยว สเปน มีเยอะแยะมากมาย เลือกไม่ถูก ปรึกษาทัวร์สเปนที่นี่

1. มาดริด (Madrid)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

มาดริดเป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสเปนที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และห้ามพลาดอย่างแรง อาทิเช่น

พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

เรียกอีกอย่างว่า พระราชวังหลวงปาลาซิโอ ที่ผ่านการออกเเบบจากสถาปนิกชาวอิตาเลียน ซึ่งได้มีการเน้นใช้ศิลปะแบบผสมผสานระหว่างอิตาเลี่ยนเเละฝรั่งเศสเข้าด้วยกัน ทำให้ลักษณะภายนอกมีความคล้ายคลึงกับพระราชวังเเวร์ซายน์ของประเทศฝรั่งเศส และภายในเต็มไปด้วยความหรูหราอย่างอลังการ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมทั้งภาพศิลป์ เครื่องลายคราม พรหมถัก และอาวุธต่าง ๆ ที่กษัตริย์ใช้ รวมไปถึงเครื่องประดับอื่น ๆ ที่อยู่ภายในให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างเต็มเปี่ยม

พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1738 เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก (Baroque architecture) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สร้างขึ้นมาด้วยหินทั้งหลังว่ากันว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ ด้านในของพระราชวังมีขนาดใหญ่มากมีห้องจำนวนมากถึง 3,418 ห้อง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เพียง 50 ห้อง และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านใน ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องฝากกล้องไว้ที่ล็อกเกอร์ด้านนอก ภายในพระราชวังแห่งนี้ตกแต่งไว้อย่างวิจิตรสวยงาม ของหลายๆชิ้นที่ตกแต่งอยู่ด้านในบ้างก็มาจากประเทศฝั่งเอเชียของเรานี่เอง

ประตูชัยอาคาล่า (Puerta De Alcala)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ประตูเมืองอันสง่างามนี้นับเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองมาดริด สร้างขึ้นโดยกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 เพื่อทดแทนประตูเดิม Puerta de Alcalá น่าจะเป็นประตูเมืองเก่าของมาดริดที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด กษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 ทรงมีดำรัสให้สร้างประตูนี้ในต้นทศวรรษที่ 1770 เพื่อทดแทนประตูเดิมที่สร้างในปี 1559 โดยให้อลังการขึ้นกว่าเดิม ชื่อของประตูชัยแห่งนี้ถูกตั้งตามชื่อของเมืองมรดกโลกที่ชื่อว่า อัลกาลาเดเอนาเรส (Alcalá de Henares) โดยที่นี่เป็นบ้านเกิดของ มิเกล เด เซร์บันเตส นักเขียนชื่อดังชาวสเปน

สถาปนิกผู้โด่งดัง Francisco Sabatini เป็นผู้ออกแบบประตูนี้ และมีการตกแต่งด้วยรูปสลัก ศิลปะนูนสูง และรูปปั้นผลงานของ Robert de Michel และ Francisco Gutiérrez ความพิเศษของประตูชัยอาคาล่านั่นก็คือในแต่ละประตูจะมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน ด้านของประตูที่หันหน้าเขาหาเมืองนั้นจะประดับไปด้วยรูปปั้นแกะสลักของสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นธงชาติ อาวุธ เสื้อเกราะและหมวกทหาร ประตูโค้งสามประตูได้รับการตกแต่งด้วยหัวสิงโต ประตูด้านหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะมองเห็นเป็นสิ่งแรกนั้นได้รับการประดับตกแต่งด้วยมงกุฎและตราแผ่นดิน ด้านบนสุดของประตูชัยจะเห็นเป็นรูปปั้นของเด็กทั้งหมด 4 คนซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี 4 อย่างนั่นก็คือ ความอดทน ความยุติธรรมความยับยั้งชั่งใจและความสุขุมรอบคอบ ปัจจุบัน Puerta de Alcalá ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางมาดริด

จัตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

จัตุรัสนี้อยู่ใจกลางเมืองมาดริดมีลานกว้างเป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวสเปนที่มานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่ บริเวณรอบๆเป็นอาคารสไตล์โรมันที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดจนโรงแรมต่างๆ บริเวณลานกว้างๆนี้ในอดีตเคยเป็นที่จัดงานสำคัญๆของเมือง

หากมีโอกาสแวะไปเที่ยวมาดริด แลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปเยือนให้ได้เลยก็คือ Plaza Mayor แห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นจัตุรัสที่มีความคลาสสิกและมีสีสันเป็นอย่างมาก ประวัติของ Plaza Mayor ได้เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยในยุคนั้นจัตุรัสแห่งนี้เคยเป็นตลาดหลักของเมืองมาก่อน จากนั้นก็กลายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ เพราะมีทั้งการต่อสู้วัวกระทิง ไปจนถึงกลายเป็นลานประหารชีวิต แต่ในปัจจุบันจัตุรัส Plaza Mayor ได้กลายเป็นเซ็นเตอร์ของเมือง ที่มีทั้งถนนคนเดิน ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่สวยๆ ให้แวะมากมายหลายแห่ง

จตุรัสหลวงศูนย์กลางเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 โดยกษัตริย์ฟิลลิปที่ 3 ด้วยศิลปะผสม ออสเตรีย-สเปนใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมืองนัดเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน (กิโลเมตรที่ศูนย์) และยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและ รถเมล์ทุกสาย นอกจากนั้นยังมีจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมือง บริเวณลานกว้างที่โรยด้วยกรวดของพลาซ่านี้ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหารเก๋ไก๋ ร้านบูติก บาร์ และคาเฟ่ และที่นี่ยังเป็นสถานที่เค้าท์ดาวน์ยอดฮิตในช่วงปีใหม่อีกด้วย

 

สนามฟุตบอลชานเดียโก้เบอร์นาบิว (Santiago Bernabéu Stadium)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

สนามระดับตำนานของยอดทีมราชันชุดขาวแห่งสเปน ทีม รีล มาดริด (Real Madrid)เปิดใช้ในปี ค.ศ.1947 แต่เดิมที่นี่รับผู้ชมได้เต็มที่รวมทั้งตั๋วยืนถึง 120,000 คน แต่ต่อมายูฟ่าออกกฎไม่ให้มีผู้ยืนชม จึงมีการปรับเปลี่ยนโดยขยายพื้นที่และติดตั้งที่นั่งเพิ่มเติมอีก 5000 ที่นั่งในปี ค.ศ.2003 ทำให้สนามนี้มีที่นั่งทั้งหมด 80,400 ที่นั่ง ที่นี่เคยเป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ.1982 มาแล้ว สำหรับยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ เคยอาศัยที่นี่เป็นสนามแข่งถึง 4 ครั้ง คือ ในปี 1957 ,1969, 1980 และ 2010 จึงไม่แปลกที่ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกการเข้าชมก็จะสามารถไปดูได้หลายส่วนทั้งห้องพักนักกีฬา ศึกษาประวัติของสโมสร ตลอกชมถ้วยรางวัลต่างๆ ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของสโมสรได้ มีทัวร์พาเข้าชมให้ ที่สำคัญการเดินทางมาก็ง่ายแสนง่ายแค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 10 ลงที่สถานี Santiago Bernabeu ได้เลย

เรติโร ปาร์ค (Parque del Retiro)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

เรติโรปาร์ค นั้นเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณใจกาลงเมืองมาดริด พื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง แหล่งพักผ่อนที่มีงบึงน้ำขนาดใหญ่ ไฮไลท์มีสองที่อย่างแรกจะเป็น อนุสาวรีย์ที่ Monument to Alfonso XII ด้านหน้าบึงน้ำ มีชาวเมืองนิยมมาพายเรือเล่นในช่วงเย็นกันเป็นจำนวนมากอีกที่เลยที่ไม่ควรพลาดอย่างแรงนั่นก็คือ ปราสาทกระจก ลักษณะเป็นปราสาทขนาดย่อมที่แลดูโปร่งด้วยกระจกรอบทิศทาง นอกจากนั้นยังมีมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดเล็กให้ได้เดินไปชมเพลินๆได้อีกด้วย จากสถานีรถไฟกลางเมืองมาดริด สามารถนั่งรถไฟสาย C2, C10 ไปลงที่สถานี Recoletos หรือนั่งรถประจำทางสาย 10, 14, 203 ไปลงที่ป้าย Puerta De Alcalá – Retiro ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

และที่ห้ามพลาดไปถ่ายรูปคือ รูปป้ันหมีเกาะต้นเชอรี่ (The bear and the cherry tree in Madrid) อันเป็นสัญลักษณณ์สำคัญอีกแห่งของกรุงมาดริด เดิมมาดริดมีชื่อว่า URSA ซึ่งเป็นภาษาละติน มีความหมายว่า หมี และป่าที่อยู่รอบเมืองเต็มไปด้วยต้นไม้ที่มีผลเหมือนสตรอเบอรี่ จึงถูกเรียกว่า Strawberry tree(ต้นหม่อนชนิดหนึ่ง) ในสงครามLas Navas de Tolosa ในปี1212 มีการนำรูปหมีและดาว7ดวงมาใช้เป็นสัญลักษณ์บนธงศึก ต่อมามีการนำต้นสตรอเบอรี่มาวางไว้คู่กันและถูกใช้เป็นตราประจำเมืองหรือCoat of arm มาตั้งแต่ปี1222 ปัจจุบันจึงพบรูปหมีเกาะต้นสตรอเบอรี่ได้ทั่วไปในทุกพื้นที่ของกรุงมาดริด

จากตัวเมืองมาดริดสิ มีเมืองที่น่าสนใจที่สามารถเดินทางแบบ ไปเช้าเย็นกลับได้เลย เช่น โตเลโด (Toledo), เซโกเวีย (Segovia), อาบีลา (Avila), ซาลามัสกา (Salamanca) เป็นต้น อย่างเราครั้งนี้เลือกเมืองโตเลโด และ เซโกเวีย

2. บาร์เซโลน่า (Barcelona)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่างบาร์เซโลน่า หรือบาร์ซา นั่นเอง บาร์เซโลน่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของสเปน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีสถาปัตยกรรมที่จะทำให้คุณหลงรัก การเดินทางไปเที่ยวประเทศสเปนคงไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดที่จะพลาดการมาเที่ยวเมืองนี้เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมอันโด่งดังหลายที่ เช่น

มหาวิหารซากราด้า ฟามีเลีย Sagrada Familia

เมืองน่าเที่ยว สเปน

สถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย อันตอนี เกาดี (Antoni Gudía) สถาปนิกชาวกาตาลา ประเทศสเปน มหาวิหารซากราด้า ฟามีเลีย เป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามสไตล์การออกแบบของเกาดีที่มักสร้างผลงานแนวอาร์ตนูโว(Art Nouveau) เริ่มก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 มีกำหนดก่อสร้างหอคอยทั้งหมด 18 หอคอย แต่ปัจจุบันก็ยังสร้างไม่เสร็จ แม้ว่าอันตอนี เกาดี จะได้เสียชีวิตลงไปแล้วแต่ผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังได้สานงานต่อโดยดูจากแบบที่เกาดีได้ทำไว้และตั้งเป้าว่าจะให้แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2026 ซึ่งจะเป็นการครบรอบ 100 ปี ที่เกาดีได้เสียชีวิตลงอีกด้วย เกาดีเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1926

และเชื่อไหมคะว่าแม้มหาวิหารแห่งนี้ก่อสร้างมานานเป็นร้อยปี แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตเพื่อก่อสร้าง และไม่เคยได้รับการขึ้นทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ของเมืองแต่อย่างใด เมื่อปี ค.ศ. 2018 ทางการเมืองบาร์เซโลน่าจึงให้ทางมหาวิหารจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 36 ล้านยูโร โดยมีข้อตกลงในการผ่อนจ่ายนาน 10 ปี แม้ว่ามหาวิหารแห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) และมีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมกว่า 20 ล้านคนต่อปี

ปาร์ค กูเอล (Park Guell)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

อีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกจากการสร้างสรรค์ของ Antoni Gaud คนเดิมที่มาในรูปแบบของสวนสาธารณะ Park Guell ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปใต้ โดย Park Guell ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็น Gaud ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโวที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงยังมีนิทรรศการประติมากรรมสวยๆ

และต้องบอกว่า ที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่ชื่อดังในบาร์เซโลน่า และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อให้กับอันตอนี เกาดี (Antoni Gudía) สวนสาธารณะปาร์ค กูเอล ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก(UNESCO) เมื่อปี ค.ศ. 2005 ปาร์ค กูเอล เป็นสวนสาธารณะไม่ธรรมดาที่ถูกตกแต่งไปด้วยกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้นสวยงามแปลกตา ตั้งอยู่บนเนินเขาเอล คาร์เมล (El Carmel) อยู่ใกล้ๆกับเมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) หากมีโอกาสได้ขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนี้ในช่วงเวลาเย็นคุณจะได้เห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ตกท่ามกลางวิวเมืองที่ทอดยาว

ถนนคนเดิน ลา รัมบลาส (La Ramblas)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยงานศิลปะที่เหล่าศิลปินต่างนำออกมาวางขายกันอย่างมากมาย นักท่องเที่ยวนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับงานศิลป์ ตลอดจนสินค้าต่างๆที่วางขายอยู่สองข้างทางแล้ว ก็ยังได้เพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมที่เรียงรายอยู่ตลอดทางอีกด้วย

และสำหรับคอฟุตบอลทั้งหลายเมื่อมาถึงบาร์เซโลนาแล้วต้องไม่พลาดกับการมาเยือน คัมป์นู (Camp Nou) เป็นสนามเหย้าของสโมสรทีมฟุตบอลบาร์เซโลน่า สโมสรฟุตบอลชื่อดังของสเปน และเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนดูได้เกือบหนึ่งแสนคนเลยทีเดียว

3. มาลากา (Málaga)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

เมืองนี้อยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปนที่นี่เป็นบ้านเกิดของจิตรกรเอกชื่อดังก้องโลกอย่าง ปิกัสโซ่ หรือ ปาโบล รุยซ์ ปิกาโซ (Pablo Ruiz Picasso) ผู้ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมืองนี้มีสถานที่น่าเที่ยวอย่าง ป้อมปราการแอลคาซาบาแห่งมาลากา (Alcazaba of Málaga) , เอล คามินิโต เดล เรย์ (El Caminito Del Rey) , รอนดา (Ronda) โดยมาลากามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเลยทีเดียว เช่น

วิหารมาลากา (Malaga Cathedral)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ย่านเมืองเก่าสามารถเข้าถึงได้จาก Plaza de la Marina ผ่าน Calle Molina Lario โดยมีมหาวิหารแห่งมาลากาตั้งตระหง่าน อาสนวิหารแห่งมาลากาซึ่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 17 และได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของสเปน เข้ามาแทนที่มัสยิดใหญ่ของเมือง องค์ประกอบเพิ่มเติมจากสไตล์บาโรกถูกเพิ่มเข้าไปในโครงสร้างในศตวรรษที่ 18 และ XNUMX ห้องที่แบ่งสัดส่วนอย่างสวยงามและความรู้สึกของพื้นที่ที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน

ปราสาทกิบราลฟาโร หรือ ภูเขาแห่งแสง (Castillo de Gibralfaro)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ปราสาท Gibralfaro เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในมาลากาที่คุณไม่ควรพลาด คุณสามารถเดินไปที่ปราสาทจาก Alcazaba ตามทางเดินที่มองเห็นวิวเมืองที่สวยงาม แม้ว่าจะค่อนข้างชัน แต่คุณสามารถขึ้นรถบัส #35 จาก Avenida de Cervantes เพื่อไปที่นั่นได้หากต้องการ

เพื่อปกป้อง Alcazaba ปราสาทถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสี่ มีประภาคารและค่ายทหารสำหรับพักทหาร ชื่อของป้อมปราการ Gibralfaro ซึ่งแปลว่า “ภูเขาแห่งแสง” มาจากสิ่งนี้อย่างแท้จริง

พิพิธภัณฑ์ Unicaja de Artes และ Costumbres Populares

เมืองน่าเที่ยว สเปน

โรงแรมสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Unicaja Foundation Museum of Folk Arts and Costumes ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของ Malaga โครงสร้างสไตล์อันดาลูเชียอันโดดเด่นมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ เช่น งานก่ออิฐฉาบปูนขาว งานกระเบื้องแบบอิสลาม ลานภายในส่วนกลาง และสวนสวย

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับนิทานพื้นบ้านและงานฝีมือของช่างฝีมือ ซึ่งเป็นการเปิดหน้าต่างสู่วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ การจัดแสดงที่มีให้เลือกมากมายมีตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาทำมือและเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ไปจนถึงอุปกรณ์ตกปลาและเครื่องใช้ในครัวแบบเก่า

 

4. บาเลนเซีย (Valencia)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

บาเลนเซีย หรือวาเล็นซิอา (València) เมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ (City of Arts and Sciences) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสเปน ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เมืองนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยศิลปะ และวิทยาศาสตร์แล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลชื่อดังอย่าง สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของเมืองจะอยู่ในเขตเมืองเก่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงบาเลนเซียต้องไม่พลาดกับสถานที่ต่างๆ เช่น จัตุรัส Reina , มหาวิหารบาเลนเซีย (Catedral de Valencia) หรือมหาวิหารเซนต์แมรี(Saint Mary’s Catedral de Valencia) สร้างขึ้นในปี 1238, พิพิธภัณฑ์ Diocesan Cathedral Museum และหอบูชาจอกศักดิ์สิทธิ์(Holy Chalice Chapel), ตลาดกลางบาเลนเซีย, หอคอย Torres de Serranos

 

จัตุรัส Reina

เมืองน่าเที่ยว สเปน

จัตุรัสที่คึกคักแห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองเก่าบาเลนเซีย มาชื่นชมสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ หรือมานั่งตามคาเฟ่อายุเก่าแก่หลายร้อยปีและช้อปปิ้งตามตลาดขายสินค้าทำมือ
จัตุรัส Reina ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าบาเลนเซีย จัตุรัสอันงดงามแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ บ้างครั้งก็มีตลาดขายสินค้าทำมือ และยังมีคาเฟ่และร้านอาหารที่่ส่วนมากจะมีที่นั่งกลางแจ้งคอยให้บริการ จัตุรัสนี้เองยังเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นสำหรับการออกเดินทางชมเมืองบาเลนเซีย

เมื่อมาถึงจัตุรัสแล้ว คุณจะได้พบกับวิหารวาเลนเซียซึ่งครอบคลุมพื้นที่ด้านเหนือของจัตุรัส วิหารนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 บนที่ตั้งของมัสยิดแขกมัวร์ เป็นตัวอย่างความงดงามที่ผสมผสานสไตล์สถาปัตยกรรมอย่างดีระหว่างบารอก กอธิกและโรมันเนสก์ แนะนำให้เช่าไกด์เสียงหรือไม่ก็เดินเล่นรอบๆ เพื่อชมศิลปะที่สร้างสรรค์โดย Francisco Goya รวมถึงถ้วยดื่มเหล้าองุ่นที่หลายๆ คนเชื่อว่าเป็น Holy Grail หรือภาชนะศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกใช้ในอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู จากนั้นเดินขึ้นบันไดวนเพื่อไปยังชั้นบนสุดของหอระฆัง Miguelete เพื่อชมวิวพาโนรามาของใจกลางเมืองบาเลนเซีย

ส่วนถนนหนทางที่อยู่รอบๆ จัตุรัส Reina นั้นก็มีคาเฟ่ บาร์และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกกัน ลองนั่งทานอาหารบริเวณเก้าอี้นอกร้านเพื่ออิ่มเอมกับสถาปัตยกรรมของจัตุรัส Reina เช่น วิหารและหอระฆังของโบสถ์ Santa Catalina

 

มหาวิหารบาเลนเซีย (Cathedral de Valencia)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

Valencia Cathedral เป็นมหาวิหารพระแม่มารีย์วาเลนเซียที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคและสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก

มหาวิหารแห่งนี้ มีการสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1238 โดยบิชอปแห่งบาเลนเซีย และมีการสร้างในช่วงต่อๆ มาอีก จึงมีส่วนผสมของศิลปะแต่ละยุคสมัย โรมัน เรเนสซอง บาโร้ก นีโอคลาสสิค ในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีการก่อสร้างเข้มข้ม รวมถึงการทำงานของศิลปิน จึงกำเนิดภาพวาดในช่วงนี้มากมาย

มีข้อสันนิษฐานว่า ในสมัยโบราณสถานที่บริเวณนี้เคยเป็นของชาวมุสลิมมาก่อน ซึ่งมีหลักฐานอยู่ที่ปีกของโบสถ์ “ประตูอัครสาวก” ว่า เคยเป็นทางเข้ามัสยิดมาก่อน

ปัจจุบันความน่าสนใจของสถานที่แห่งนี้ อยู่ที่ประวัติศาสตร์ความเป็นมา สถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ความงดงามของแต่ละส่วน

ภายนอกอาคาร แม้จะดูเก่า แต่ก็ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของลวดลาย รูปปั้นที่อยู่ในแต่ละช่องตรงซุ้มประตู ผนังอาคารที่เป็นลักษณะใช้อิฐก้อนก่อเป็นอาคาร ทรงอาคารที่มีระเบียงโอบโค้งเป็นวงกลม

– Chancel of the cathedral บริเวณแท่นบูชา ซุ้มโค้งหลังคาโดม ลวดลายสีทอง กระจกสีเป็นรูปต่างๆ รวมถึงรูปภาพเรื่องราวในคัมภีร์ทางคริสตศาสนาบรรจุในกรอบวางเรียงถัดลงมา

– Nave of the cathedral ภายในโบสถ์ ด้านข้างเป็นซุ้มโค้งเป็นระยะ เสาแบบฝังในผนังครึ่งหนึ่ง มีม้านั่งแถวยาวสำหรับผู้เข้าประกอบพิธีกรรมเหมือนทั่วไป งานศิลปะเรียบหรู

– Chapel of the Holy Chalice วิหารของ Holy Chalice และ บริเวณรอบๆ ด้านข้าง ด้านบน ภาพมุมกว้างที่เห็นทั้งหมด เป็นอีกภาพประทับใจในเรื่องของศิลปะ

– Dome of the Cathedral of Valencia เป็นโดมด้านนอกที่ไม่ใช่โดมโค้ง แต่มีลักษณะหลายเหลี่ยมสูงขึ้นไป แต่ละช่อง มีลวดลายซุ้มเหมือนๆ กัน

– Bell Tower, Micalet หอระฆังของมหาวิหารแห่งนี้ เก่าแก่คู่กับมหาวิหาร เป็นศิลปะโกธิก สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ มีบันได 207 ขั้น

– Door of the Irons เป็นประตูที่มีความหรูหรา อลังการ เป็นสไตล์บาโร้ก วิจิตรด้วยลวดลาย และประติมากรรมภาพนูน

– Alabaster window in Valencia เป็นหน้าต่างที่สร้างแบบไม่สมดุลแต่กลายเป็นจุดเด่น เพราะทำให้แสงอาทิตย์ส่องกระทบไปถึงแท่นบูชาด้านหน้าได้

นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในโบราณสถาน สถาปัตยกรรมยุคเก่า ที่มีความวิจิตรอลังการ จะชอบที่นี่ ไม่ผิดหวังทุกมุมมอง

 

5. โตเลโด (Toledo)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

โตเลโด เป็นหนึ่งในเมืองน่าเที่ยว สเปน อดีตเมืองหลวงเก่าของประเทศสเปน ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ และอยู่ห่างจากกรุงมาดริดไปทางใต้ ประมาณ 70 กิโลเมตร ที่นี่เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของสเปน และยังเป็นการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตากุส(Tagus) ทำเลที่ตั้งของเมืองที่มีทั้งผาสูง และแม่น้ำล้อมรอบจึงนับเป็นป้อมปราการที่เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก

ในปี ค.ศ.1561 ในสมัยของพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน (Felipe II de España) ได้ทรงย้ายเมืองหลวงจากโตเลโดไปเป็นมาดริด

จากกรุงมาดริดไปทางทิศใต้ประมาณ 73 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.15 ชม.เป็นเมืองโตเลโด ซึ่งอยู่ในแคว้นกัสติยา-ลามันชา (Castilla-La Mancha) เมืองนี้ได้รับประกาศในเป็ นเมืองมรดกโลกในปีค.ศ. 1986 เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย

ตัวเมืองโบราณตั้งอยู่บนเนินเขา มีแม่น้ำล้อมรอบ ทั้งเมืองเป็นป้อมปราการ กำแพงล้อม บ้านพักอยู่ภายในปราสาทตั้งอยู่ด้านบนสุด สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเช่น มหาวิหารแห่งโตเลโด (Toledo Cathedral หรือ Santa Iglesia Catedral Primada de Toledo) เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสเปน รองจากวิหารเมืองเซบีญ่า มหาวิหารโตเลโดไม่ได้เป็นแค่เพียงสิ่งปลูกสร้างที่สะดุดตามากที่สุดของเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นมหาวิหารที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง มหาวิหารแห่งนี้นับเป็นวิหารที่สถาปัตยกรรมแบบโกธิกระดับสูงได้รับการยกยอ่งว่าเป็นศิลปะชิ้นเอก 1 ใน 3 ที่ถูกจารึกไว้ของช่วงศตวรรษที่ 13 ประตูหลัก มีทั้งสิ้น 3 ประตู คือ Puerta del Perdon, Puerta del Juicio และ Puerta del Infierno มีความหมายของชื่อประตูอย่างมีปริศนาธรรม ประตูแห่งการให้อภัย ประตูแห่งการพิพากษา และประตูแห่งนรก

ความงดงามของที่นี่เป็นความวิจิตรของอาคารที่ปรากฏรายละเอียดลวดลายเหมือนไม่ใช่อาคารแต่เป็นภาพเขียน มีความวิจิตรตั้งแต่เพดานโค้ง แท่นบูชาด้านหน้า การตกแต่งด้วยกระจกสี รูปภาพ และงานประติมากรรมเช่นเดียวกับงานในยุคเดียวกัน ตรงบริเวณห้องเก็บเครื่องพิธีที่แสดงผลงานศิลปะล้ำค่าของศิลปินชื่อดัง เช่น เบลาซเกซ, การาวัจโจ, ทิเชียน และราฟาเอล เป็นต้น ผลงานที่โดดเด่นชิ้นหนึ่ง ได้แก่ Disrobing of Christ(El Spolio) ของเอลเกรโค ภาพอันทรงพลังของฝูงชนพยายามเปลื้องเสื้อคลุมสีแดงสดของพระเยซูคริสต์เพื่อเตรียมตัวประหารพระองค์

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของเมืองโตเลโดจะรวมตัวกันอยู่ในเขตเมืองเก่าสามารถเดินถึงกันได้ อาจมีเพียงจุดชมวิวเมืองที่ต้องอาศัยพาหนะในการเดินทาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงเมืองโตเลโดก็ต้องไม่พลาดชม

 

มหาวิหารโตเลโด (Toledo Cathedral) หรือ Catedral Primada Santa María de Toledo

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ที่นี่เป็นมหาวิหารสไตล์กอธิคที่มีความสวยงาม และมีความใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของสเปน Toledo Cathedral เป็นมหาวิหารที่มีความโดดเด่นและได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์และนักวิจารณ์ด้านศิลปะอย่างล้นหลาม ด้วยความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรม ศิลปะโกธิก และที่นี่เป็นแหล่งรวมของภาพจิตรกรรมอันทรงคุณค่าตั้งแต่โบราณมา

มหาวิหารแห่งนี้นับเป็นวิหารที่สถาปัตยกรรมแบบโกธิกระดับสูงได้รับการยกยอ่งว่าเป็นศิลปะชิ้นเอก 1 ใน 3 ที่ถูกจารึกไว้ของช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นยุคที่กษัตริย์เฟอร์ดินานที่ 3 ที่มีการขับไล่ชาวมุสลิม มีการสร้างมหาวิหารทางคริตศาสนาบนพื้นที่ของศาสนสถานของชาวมุสลิม มีการสร้างและปรับปรุงมาเป็นระยะๆ หากมีการทำแผนภาพพื้นที่จะเห็นความแปลกของงานก่อสร้าง เพราะมีการปรับเปลี่ยนต่างช่วงกันนั่นเอง

 

สะพานอัลกันตารา (Puente de Alcantara)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

เราเริ่มทัวร์ชมสิ่งที่อาจโด่งดังที่สุดในสเปน นี่คือสะพานAlcántara ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองกาเซเรสที่มีชื่อเดียวกันกับ แม่น้ำ Tagus. มีการลงวันที่ประมาณปี 103 หลังจากที่พระคริสต์และยังคงโดดเด่นในวันนี้สำหรับความงดงามของมัน

ประกอบด้วยซุ้มโค้งครึ่งวงกลมหกส่วนที่มีความสูงต่างกัน ในทางกลับกันสิ่งเหล่านี้ถูกจัดเรียงบนเสาห้าต้นที่มีค้ำยันสูง นอกจากนี้ ในใจกลางของแพลตฟอร์ม คุณจะเห็น ซุ้มประตูของ Trajan และที่ทางเข้าจากด้านอัลกันทารามีวัดเล็กๆ คุณจะประหลาดใจกับสภาพการอนุรักษ์ที่สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม มีการบูรณะหลายครั้ง

อาคารหลังนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ผ่าน Norbaซึ่งเชื่อมโยงพื้นที่กับ Lusitania และในทางกลับกันก็สื่อสารสิ่งนี้กับสิ่งที่สำคัญที่สุด Via de la Plata. สะพานนี้มีความยาวเกือบสองร้อยเมตรและสูงเกือบหกสิบเมตร

ในทางกลับกัน เนื่องจากคุณอยู่ในอัลคันทารา เราขอแนะนำให้คุณไปที่ สะพานเซกุระจากสมัยโรมันเช่นกัน แม้จะอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าครั้งก่อนก็ตาม คุณต้องดูคริสตจักรของ .ด้วย ซานตา มาเรีย เด อัลโมโควาร์ y de San Pedro de Alcantaraสร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบสองและสิบเจ็ดตามลำดับ แต่เหนือสิ่งอื่นใด อย่าลืมแวะเยี่ยมชม ปราสาทและป้อมปราการรวมถึงความตื่นตาตื่นใจ คอนแวนต์ซานเบนิโตพร้อมแกลเลอรีอันโอ่อ่าของ Carlos V และกุฏิ

 

ป้อมอัลคาซา (Alcazar de Toledo)

เมืองน่าเที่ยว สเปน

ป้อมปราการอันเก่าแก่ สัญลักษณ์อันสำคัญของเมืองโตเลโด ในอดีตที่นี่นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเพราะตั้งอยู่บนที่สูง และมีแม่น้ำล้อมรอบ ปัจจุบันป้อมอัลคาซาได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของสเปน ทั้งด้านสงคราม ทหาร ภายในมีนิทรรศการให้ดูมากมายทั้งประวัติศาสตร์สงครามในแต่ละยุคสมัย

นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างโบสถ์ Iglesia del Salvador โบสถ์เก่าแก่ที่เดิมเป็นมัสยิดเก่าของชาวมุสลิม รวมไปถึงสถานีรถไฟโตเลโด สถานีรถไฟที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Mudejar

อันที่จริงจะต้องบอกว่า สเปน ไม่ได้มีเมืองน่าเที่ยวเพียงเท่านี้นะคะ นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายเมืองด้วยกัน เช่น เซวิลล์ หรือเซบียา (Seville), กรานาดา (Granada) และเมืองประวัติศาสตร์อื่นๆ อีกมากมายเลยหล่ะค่ะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้ที่เที่ยวเมืองน่าเที่ยว สเปนแล้ว เรามาเตรียมความพร้อมกันซักนิดค่ะ

เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวประเทศสเปน สำหรับท่านใดกำลังมีแผนจะเดินทางไปเที่ยวประเทศสเปน เราก็มีเรื่องน่ารู้เพื่อให้เตรียมตัวก่อนเดินทางกันค่ะ

 

เมืองน่าเที่ยว สเปน

วีซ่าเข้าประเทศสเปน

ไปเที่ยวสเปนนักท่องเที่ยวต้องขอวีซ่าเชงเก้น สามารถพำนักอยู่ได้ 90 วัน สามารถสอบถามรายละเอียดวีซ่าสเปนได้ที่ทีมปรึกษาเรื่องวีซ่าสเปน เมืองน่าเที่ยว สเปน

เวลาของประเทศสเปน

ในช่วงฤดูหนาวประเทศสเปนจะช้ากว่าประเทศไทย ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนเวลาจะช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 5 ชั่วโมง

ฤดูกาลในประเทศสเปน

ถ้ามีคนถามว่าไปเที่ยวสเปนฤดูไหนดี หรือไปเที่ยวสเปนเดือนไหนดี ก็ขอตอบเหมือนทุกๆประเทศว่าสเปนเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ประเทศสเปนมี 4 ฤดู คือ

ฤดูหนาว (Winter) เดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ 2-15 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 10-25 องศาเซลเซียส

ฤดูร้อน (Summer) เดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิประมาณ 21-40 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เดือนกันยายน – ตุลาคม อุณหภูมิประมาณ 15-19 องศาเซลเซียส

ระบบไฟฟ้าของประเทศสเปน

ประเทศสเปนใช้ไฟแรงดัน 230 V ช่องเสียบปลั๊กเป็นแบบ Type F

สกุลเงินประเทศสเปน

นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปประเทศสเปนสามารถใช้เงินในสกุลเงินยูโร(EUR) แลกจากเมืองไทยไปได้เลยค่ะ

ประเทศสเปนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆอีกมากมาย และเมื่อไปถึงสเปนแล้วอย่าลืมลองชิมปาท่องโก๋สเปนว่ารสชาติต่างจากเมืองไทยอย่างไร พาชิม กินถึงถิ่น ปาท่องโก๋สเปน ชูโรส และลองชิมอาหารสเปนเมนูต่างๆ เยือนถิ่นกระทิงชิมของอร่อยที่สเปนใน Blog หน้านะคะ

เมืองน่าเที่ยว สเปน มีอีกมากมายเลยค่ะหากเพื่อนๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนดี นึกถึง MESUB TRAVEL นะคะ

ทัวร์สเปน เมืองน่าเที่ยว สเปน ต่อวีซ่า ปรีกษาฟรี  เมืองน่าเที่ยว สเปน คลิกเลย! เนื่องจาก MESUB TRAVEL มีทีมงานคุณภาพ พร้อมบริการ สะดวก รวดเร็ว ทีมงานของเรายินดีดูแลเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ในวงการมากกว่าหลายสิบปี การันตีด้วยลูกค้ามากมาย

เปิดให้บริการ: จันทร์ – ศุกร์ 09.30-18.00

ออนไลน์ 09.30-18.00 (ทุกวัน)

LINE Official: @mesubtravel

TEL: ไทย 09-5653-8299, 083-468-5325

ENG 09-2966-9045

中文 08-1009-0558

FB Page: MESUB visa&travel บริการด้านวีซ่าครบวงจร

Email: mesubvisa@gmail.com

ทำไมถึงถูกปฏิเสธวีซ่า?

บทความที่เกี่ยวข้อง